ก่อนดู Last Seen Alive ผมนึกถึงหนัง 3 เรื่องขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กัน อันได้แก่ Spoorloos, The Vanishing (อันนี้รีเมคจาก Spoorloos อีกที) และ Breakdown แต่ละเรื่องล้วนมีเนื้อหาว่าด้วยสามีวิ่งพล่านตามหาภรรยาที่หายตัวไประหว่างเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง
Last Seen Alive ก็มีเนื้อเรื่องตามนั้นครับ ตัวเอกคือ วิลล์ สแปนน์ (Gerard Butler) นักพัฒนาอสังหาฯ ที่ขับรถพาลิซ่า (Jaimie Alexander) ภรรยาของเขาไปส่งบ้านพ่อแม่ของเธอ ทีนี้ระหว่างทางพวกเขาก็แวะปั้มน้ำมัน แล้วลิซ่าก็เดินไปซื้อน้ำ ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ วิลล์เลยต้องหาทางสืบว่าเธอหายไปไหนกันแน่
หนังจัดว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ก็ยอมรับว่าระหว่างดูผมก็แอบหงุดหงิด กับหนังเป็นระยะ เช่น กว่าวิลล์จะถามเรื่องกล้องวงจรปิดในปั้มก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้ว ทั้งๆ ที่นั่นน่าจะเป็นเรื่องแรกๆ ที่ผุดขึ้นในหัว และระหว่างทางก็มีอีกหลายประเด็นครับ แต่คงพูดมากไม่ได้เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์อีก
เอาเป็นว่าหนังมีจุดชวนให้เกิดคำถามประเภท “ทำไมพี่ไม่ทำแบบนั้นล่ะครับ” งอกขึ้นเป็นพักๆ แต่ก็พยายามมองข้ามครับ แล้วไปโฟกัสที่การแสดงของ Butler กับการเดินเรื่องแทน ซึ่งพูดแบบไม่อ้อมค้อมว่าหนัง 3 เรื่องเกี่ยวกับเมียหายที่ผมยกตัวอย่างไปนั้น สนุกกว่าเรื่องนี้ครับ อย่างเรื่อง Breakdown นี่หนังเดินเรื่องได้ดี มีการทิ้งปมวางปมพอเหมาะ มีช่วงให้ตื่นเต้นลุ้นระทึก ดูแล้วมันส์ใช้ได้
ส่วน Spoorloos กับ The Vanishing ก็มาในแนวระทึก ทำให้คำถามที่ว่า “เมียพระเอกหายไปไหน” วนเวียนอยู่ในหัวคนดูตลอด ก่อนจะลงเอยตอนจบแบบชวนสะพรึงอย่างยิ่ง (Spoorloos ซึ่งเป็นต้นฉบับของ The Vanishing นั้นถือว่าชนะในเรื่องของ “ตอนจบ” นี่แหละ น่ากลัวจริง)
เรื่องนี้ปมถือว่ายังไม่เยอะครับ การติดตามสืบร่องรอยก็ไม่เข้มข้นหรือชวนติดตามแบบเต็มๆ พูดตรงๆ คือหนังดูได้โอเคก็เพราะ Butler แสดงนำนี่แหละครับ ในขณะที่ส่วนของเนื้อหาถือว่ายังไม่เข้มจัดเต็มสักเท่าไร หลายอย่างเดาทางได้ไม่ยาก และส่วนหนึ่งที่ปมในเรื่องไม่เข้มนักก็อาจเพราะตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ไม่ได้ฉลาดล้ำหรือเก่งอะไรมากมายครับ ปมมันเลยไม่หนักไม่เข้ม ความซับซ้อนมันเลยไม่มาก จนพลอยทำให้ความมันส์ไม่มากเท่าไร
แต่ถ้าดูแบบไม่คิดมากก็พอได้ครับ หนังก็ไม่ยาวด้วย ราวๆ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เลยพอไหวในการดู
ก็ถือว่าเหมาะสำหรับแฟนของ Butler ครับ
สองดาวครับ
(6/10)