เป็นหนังสัญชาติสเปนที่มาแบบเงียบ ๆ แต่ก็สามารถสร้างความเซอร์ไพรส์ไม่ใช่น้อยกับคนดูจริง ๆ นี่คือ “The Chalk Line ห้ามข้ามเส้น” หรือชื่อภาษาสเปนที่ว่า “Jaula” หนังแนวลึกลับปริศนาที่บอกเลยว่า หน้าหนังนั้นได้ทำหน้าที่ตบหน้าคนดูได้อย่างแยบยลสุด ๆ เพราะเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นหนังอีกเรื่อง ที่มีพร้อมกับจุดหักมุมและความโหดที่สร้างความประหลาดใจให้คนดูได้แบบไม่ทันตั้งตัว
The Chalk Line ห้ามข้ามเส้น เล่าเรื่องราวของ เปาล่า กับสามีของเธอ ที่เพิ่งจะกลับมาจากดินเนอร์นอกบ้าน ก่อนจะมาพบกับเด็กหญิงเร่ร่อนคนหนึ่งเดินไปมาอยู่ริมถนน กระทั่งเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ พวกเขาเห็นว่าเด็กคนนั้นยังวนเวียนอยู่ที่เดิม จึงได้ตัดสินใจพาเด็กมาพักที่บ้านชั่วคราว เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเด็กคนนี้
แต่นั่นเป็นจุดเปลี่ยนทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องประหลาดที่เหลือเชื่อ เพราะเด็กหญิงผู้นี้มักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องในจิตนาการของตัวเอง อ้างว่าจะมีสัตว์ประหลาดออกมาลงทัณฑ์ ถ้าหากว่าเธอก้าวออกมาจากเส้นสี่เหลี่ยมที่เขียนด้วยชอล์กบนพื้นบ้าน พอลล่าจึงเริ่มออกค้นหาคำตอบเกี่ยวกับตัวตนอันเป็นปริศนาและอดีตอันน่าสะพรึงกลัวของเธอ
นี่คือผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของ “อินาซิโอ ทาเลย์” นักสร้างหนังหนุ่มรุ่นใหม่ที่ถือว่ากำลังเป็นที่น่าจับตามองในวงการหนังสเปน หลังจากที่สั่งสมประการณ์ในการทำหนังสั้นมาหลายเรื่อง ก็ได้ฤกษ์ที่เขาจะได้เดบิวต์หนังเรื่องยาวเป็นเรื่องแรก และถือว่าเป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีชตั้งแต่ออกตัวสำหรับเขาเลยทีเดียว
หนังเรื่องนี้ได้มือเขียนบทหนังชื่อดังของสเปน อย่าง “อิสซาเบล เพน่า” (จาก Mother และ The Beasts) โดยที่ผู้กำกับยังได้ร่วมเขียนบทหนังอีกด้วย ต้องบอกเลยว่าบทหนังเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนอะไร แต่ค่อนข้างคมคายและเต็มไปด้วยจังหวะที่ดึงดูดอารมณ์ผู้ชมได้อยู่หมัด เป็นบทหนังที่ซ่อนความหักมุมเอาไว้แบบคาดไม่ถึง จากโทนเรื่องที่คนดูจะต้องคิดว่าเป็นแบบนี้ กลับเปลี่ยนทิศทางไปอีกแบบที่ค่อนข้างเร้าใจไม่เบา
ทางด้านโปรดักชั่นของหนัง The Chalk Line ห้ามข้ามเส้น อาจจะไม่ได้มีอะไรที่หวือหวาและโดดเด่นจากหนังยุโรปทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่การสร้างบรรยากาศของหนังเรื่องนี้โดยรวมถือว่าใช้ได้ทีเดียว ต้องยกความดีความชอบให้กับโครงเรื่องที่มีชั้นเชิงและการแสดงของทีมนักแสดงที่น่าพึงพอใจ แม้ว่ายังคงมีจุดบกพร่องประปรายกระจายอยู่ในหนังบ้าง แต่โทนรวมของหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมต้องประหลาดใจเมื่อถึงปลายทาง
อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วว่า The Chalk Line มากับเส้นเรื่องที่ค่อนข้างทวิตส์ไม่เบา และนั่นเป็นเสน่ห์ที่สุดของหนังเรื่องนี้ หนังปูทางและสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับหนังลึกลับเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับระหว่างสายใยแม่ลูกตามสไตล์หนังแถบ ๆ นี้ แต่ยิ่งถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ ผ่านช่วงครึ่งแรกของหนังไป เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของเรื่อง พล็อตต่าง ๆ กลับพลิกตลบไปอีกแบบ ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยยกระดับอารมณ์ของคนดูได้เป็นอย่างดี
“เอเลน่า อานาย่า” นักแสดงสาวที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยเธอกันดีใน The Skin I Live In หรือตัวร้ายของ Wonder Woman ภาคแรก มาเป็นตัวยืนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ได้อย่างทรงพลัง กับการแสดงน้อยแต่มากที่เธอถ่ายทอดออกมา นี่คือตัวละครที่มีภาวะทางอารมณ์และแนวคิดเชิงซ้อนที่ค่อนข้างเข้าใจยากไม่เบาทีเดียว แต่เธอสามารถทำมันออกมาได้ให้คนดูบริโภคได้แบบย่อยง่าย ๆ และค่อนข้างน่าประทับใจไม่น้อย
เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้วนั้น The Chalk Line ไม่เชิงว่าจะเป็นหนังที่หลอกคนดูด้วยหน้าหนังที่ลวงตา แต่เป็นการเล่นกับคนดูมากกว่าว่าสิ่งที่คิด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็น นี่คือหนังสเปนที่มีพล็อตที่เต็มไปด้วยท่วงท่าลีลาที่น่าสนใจ เป็นหนังที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดูไม่เบา เพราะไม่คิดว่าจะมาไกลและพามาถึงระดับโหดเพียงนี้ บอกเลยว่า…เป็นหนังนอกสายตาที่ไม่เคยพลาดมาก ๆ ในปี 2022 นี้เลย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Chalk Line ห้ามข้ามเส้น
- ประเภท: ดราม่า / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: อินาซิโอ ทาเลย์
- นำแสดงโดย: เอเลน่า อานาย่า, ปาโบล โมลิเนโร, คาร์ลอส ซานโตส
- ความยาว: 106 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 24 ตุลาคม 2022 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: The Chalk Line ห้ามข้ามเส้น
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
คุณสามารถรับชม Netflix ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!
————————————-