ความรู้สึกที่ผมมีต่อ Uncharted อยู่ในระดับไล่ๆ กับ Tomb Raider เวอร์ชั่น Alicia Vikander และอาจจะมากกว่า Tomb Raider เวอร์ชั่น Angelina Jolie ทั้ง 2 ภาคอยู่สักหน่อย… ว่าง่ายๆ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่โดนใจแบบเต็มๆ น่ะครับ
ตัวหนังก็ออกแนวแอ็กชันผจญภัยผสมด้วยการไขปริศนาล่าขุมทรัพย์ ดัดแปลงจากเกมสุดฮิตที่ทำออกมาหลายภาค ตัวเอกคือนาธาน เดรค (Tom Holland) ที่ได้รับการชักชวนจากซัลลี่ (Mark Wahlberg) ให้มาช่วยกันตามหาสมบัติที่สาปสูญของเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน โดยมีคู่แข่งที่ล่าสมบัติเหมือนกันอย่างซานติอาโก้ มอนคาดา (Antonio Banderas) คอยมาพัวพันไล่ล่าอยู่เนืองๆ
จริงๆ ผมโหยหาหนังแนวนี้ครับ ชอบมาก ออกตัวเลยว่าหลงเสน่ห์หนังแนวนี้แบบสุดๆ แนวล่าสมบัติผจญภัยไขปริศนาแบบนี้ เรื่องที่โปรดปรานของผมเลยแน่นอนว่าต้องเป็น Indiana Jones บวกด้วย National Treasure ที่เอามาเปิดดูซ้ำอยู่บ่อยๆ บวกด้วย The Goonies แล้วก็หนังชุด The Da Vinci Code
สำหรับ Uncharted ก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ครับ คือหนังก็มีทั้งตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ชวนจดจำพอตัว, ฉากแอ็กชันไล่ล่าตั้งแต่ในเมืองไปจนถึงในป่า แล้วก็การใช้สมองถอดรหัสไขปริศนาตามรอยขุมสมบัติที่ซ่อนอยู่ บวกด้วยการสอดแทรกประวัติศาสตร์ผสมผสานลงไปให้เรื่องมันดูน่าค้นหา เรียกว่ามีครบในสิ่งที่ควรมีสำหรับหนังแนวนี้
แต่ถ้าให้พูดตรงๆ แล้วก็คงต้องบอกว่าแม้หนังมีองค์ประกอบครบ แต่ยังไม่อร่อยเต็มร้อยครับ ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่ากลางๆ ฉากแอ็กชันมีมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับลุ้นแบบเต็มๆ สถานที่ในการบู๊ก็ยังไม่มีอะไรโดดเด่นจับตา หรือการถอดรหัสไขปริศนาก็ถือว่าเรื่อยๆ ไม่มีอะไรให้ลุ้น รวมถึงการผสานประวัติศาสตร์เข้ากับเรื่อง ก็ถือว่ายังไม่ถึงระดับที่ทำให้เรื่องราวดูน่าเชื่อแบบเป็นตุเป็นตะ
ไปๆ มาๆ จุดที่ผมว่าเวิร์กและน่าเชื่อในหนังคือการปูพื้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนาธานกับพี่ชายที่หายไปน่ะครับ ผมว่าหนังเล่าเรื่องส่วนนี้ได้โอเค ดูแล้วเชื่อว่าพี่ของนาธานมีความหมายต่อตัวนาธานจริงๆ และเป็นแรงผลักดันให้เขาทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อจะได้พบเจอกับพี่ชายอีกครั้ง
โดยรวมแล้วหนังถือว่าอยู่ในระดับเรื่อยๆ น่ะครับ ดูได้พอเพลิน ก็ต้องขอบคุณการแสดงที่เข้าขากันในระดับหนึ่งของ Holland และ Wahlberg และจริงๆ ผมชอบมาดของ Banderas นะ เสียตรงที่บทของพี่เขาไม่มากอย่างที่คิด ส่วนบทของสาวๆ ในเรื่องก็ถือว่าโอเคเครับ ทั้ง Sophia Ali ในบทโคลอี้ ที่มาแจมกับพวกพระเอกในการล่าสมบัติ และ Tati Gabrielle ในบทแบรดด็อก ลูกน้องของซานติอาโก้ที่คอยเกาะติด 2 พระเอกอยู่ตลอดๆ
หนังกำกับโดย Ruben Fleischer เจ้าของผลงานที่น่าจดจำอย่าง Zombieland ทั้ง 2 ภาค และ Venom ภาคแรก สำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าเขาคุมหนังได้โอเคตามมาตรฐานครับ เพียงแต่ลูกเล่นการเล่าเรื่องรวมถึงองค์ประกอบต่างๆ สำหรับหนังล่าสมบัติที่ผมกล่าวไปนั้นยังไม่เด่นเท่าที่ควร คือดูเป็นหนังล่าสมบัตินั่นแหละ แต่รสยังไม่ถึงเครื่อง ความกลมกล่อมยังไม่เด่นเท่าผลงานๆ ก่อนของเขา
แต่หนังก็ประสบความสำเร็จล่ะครับ ทำเงินไปกว่า $400 ล้าน จากทุนประมาณ $120 ล้านก็ถือว่าสวยอยู่ และคงจะมีภาคต่อตามมาแน่นอน ซึ่งผมก็พร้อมดูอีกนั่นแหละครับ ขอเพียงให้ภาคต่อมีรสเข้มข้นกว่านี้ ผจญภัยกันลุ้นกว่านี้ และเพิ่มเรื่องส่วนการตามสมบัติให้เข้มข้นถึงรสยิ่งขึ้น ก็คงจะเยี่ยมไปเลยครับ
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)
มีเรื่องอยากขอสปอยล์หน่อยนะครับ
บอกตรงๆ ว่าแอบผิดหวังครับที่บทซานติอาโก้ของ Banderas โดนตัดออกไปตั้งแต่ครึ่งเรื่อง อันนี้บอกตรงๆ ตามความรู้สึกเลยว่าแอบเบื่อมุกนี้อยู่เหมือน ประเภทว่าหน้าหนังโฆษณาเหมือนว่าซานติอาโก้เป็นตัวร้ายใหญ่ แต่ดันหักมุมฆ่าพี่แกทิ้งซะนี่ ถ้าไปเมื่อก่อนมุกนี้ก็พอจะใหม่อยู่ครับ แต่รู้สึกว่าระยะหลังนี่เจอมุกนี้บ่อยมาก ในซีรี่ส์ The Defenders ก็ใช้ ใน Star Wars: The Last Jedi ก็ใช้ และอีกหลายเรื่อง รู้สึกค่อนข้างเกร่อแล้วสำหรับมุกนี้
แต่ที่ผิดหวังนี่ก็เพราะจริงๆ Banderas แกเล่นดีครับ มาดแกได้ จนอยากเห็นพี่แกไปฟัดกันพวกพระเอกในตอนท้าย น่าจะมันส์ดี และคงมีประโยคคมๆ พูดโต้ตอบไปมาให้ดูเท่ห์ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นครับ
ในขณะที่ตัวร้ายหลักของจริงอย่างแบรดด็อกผมว่าบารมียังไม่ได้ ความร้ายยังไม่ถึง ความน่าจดจำก็ยังไม่มาก เลยมีส่วนทำให้ตอนท้ายความสนุกเร้าใจอันพึงมีก็ลดปริมาณลงไปพอสมควร