ในปีที่ 4 ของ Angel ท่านจะได้พบกับความเข้มข้นแบบสุดๆ ของเรื่องราวครับ เพราะปมทั้งหลายที่พี่ Joss Whedon แกอุตส่าห์ปูไว้ตั้งแต่ปีก่อนๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นความมันส์แบบมหึมาในปีนี้นี่แหละครับ
หลังจากแองเจิ้ล (David Boreanaz) เทพบุตรแวมไพร์ของเราต้องเผชิญกับเหตุพลิกผันอย่างมากมายในปีที่แล้ว (ตั้งแต่การปรากฏตัวของศัตรูเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ไปจนถึงการที่เขาต้องต่อกรกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง) มาปีนี้ บรรดาเรื่องราวทั้งหลายก็ยังคงสานต่อครับ ช่วงแรกๆ ของปีก็ต้องมานั่งลุ้นว่าแองเจิ้ลจะรอดจากการโดนจับถ่วงน้ำได้ยังไง พอช่วงถัดจากนั้นความมันส์ก็ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องครับ
เนื้อหาตลอดทั้งปีนี้จะต่อเนื่องกันไปตลอด ความน่าติดตามเลย Non-Stop ไปด้วย เพราะแองเจิ้ลกับพรรคพวกต้องเผชิญหน้ากับจอมอสูรสุดอำมหิตที่ฆ่าได้ทุกคน และพลังของมันก็ไร้ขีดจำกัดขนาดที่สามารถจับแองเจิ้ลโยนลงมาจากตึกได้อย่างง่ายๆ เลย ซึ่งเอาแค่ช่วงแรกนี่ก็ลุ้นกันปางตายแล้วล่ะครับ
ช่วงต่อมายิ่งแล้วใหญ่ เพราะเรื่องราวมันไร้ทางออกมากขึ้นจนพวกแองเจิ้ลค้นหาทางออกเจอเพียงอย่างเดียว คือต้องปลุกแองเจลัสขึ้นมาเพื่อเล่นงานเจ้าจอมอสูรตนนี้ ก็ยุ่งกันใหญ่ล่ะครับ เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าแองเจลัสคือร่างชั่วที่โคตรจะชั่วของแองเจิ้ล ปลุกมาทีล่ะได้วายวอดกันแน่ๆ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอ้ะ ไม่งั้นคนก็ตายกันหมดแอล.เอ. แน่ๆ เลยต้องนำแองเจลัสกลับมาอีกครั้ง
พอมาช่วงท้ายจะมีอะไรให้อึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะปรากฏว่าหนังมันวางหมากไว้ตั้งแต่ปีแรกๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องที่คอร์เดเลีย (Charisma Carpenter) มีพลังหยั่งรู้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือการที่แองเจิ้ลมีลูกได้นั้นก็โดนวางเอาไว้ก่อนแล้ว คือมันเชื่อมเรื่องราวได้ดีครับ ดีมากทีเดียว แต่ก็ต้องทนหน่อยนะครับสำหรับแฟนๆ ที่ดูซีรี่ส์นี้มาตั้งแต่สมัย Buffy เพราะเรื่องราวมันค่อนข้างจะทำร้ายจิตใจกันพอสมควรเลยล่ะผมว่านะ ตอนแรกผมก็หวิวๆ ครับ ประมาณว่า “เออ เล่นกันอย่างนี้เลยเรอะ” แต่พอดูๆ ไปก็ยอมรับล่ะครับว่าพี่ Joss ผู้สร้างแกวางเรื่องได้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่จับเอาเรื่องตรงนั้นมาคิดต่อแบบดื้อๆ แต่แกวางเอาไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างเลยล่ะมั้งว่าเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร ซึ่งปีนี้ก็เป็นการขมวดปมและเฉลยเรื่องราวปูมหลังของแต่ละปมนั่นเองแหละครับ
และในช่วงท้ายของปี ศัตรูที่พวกเขาต้องเผชิญก็คือ จัสมิน (Gina Torres) สตรีลึกลับที่มีความสามารถทำให้โลกทั้งใบมีแต่ความสุขได้ (แต่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของคนอีกบางส่วนนะครับ) พวกแองเจิ้ลก็เลยต้องหาทางจัดการ แต่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเลครับ เพราะปรากฏว่าพวกแองเจิ้ลและชาวแอล.เอ ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของเธอทั้งสิ้นเลย แล้วจะเอาชนะเธอได้ยังไงกันล่ะเนี่ย
นั่นแหละครับเรื่องราวความมันส์ฉบับสั้นๆ ของ Angel ปีนี้ ซึ่งถ้าอยากเห็นฉบับเต็มๆ ก็ต้องตามไปดูกันเองล่ะนะครับ แต่ผมว่าทำได้ดีครับ สนุกมาก เป็นปีที่หม่นที่สุด เข้มข้นที่สุด และเรื่องราวพลิกผันมากที่สุดของซีรี่ส์ชุดนี้ เรียกได้ว่าถ้าติดตามกันมาหลายปี ก็ห้ามพลาดเด็ดขาดครับสำหรับปีนี้
ตัวละครก็ยังหน้าเดิมครับ ไม่ว่าจะคอร์เดเลีย, ชาร์ลส กันน์ (J. August Richards) หนุ่มนักสู้ผิวหมึก, เฟรด (Amy Acker) สาวน้อยนักวิทยาศาสตร์, ลอร์น (Andy Hallett) พี่ตัวเขียวนักอ่านใจที่ร้องเพลงได้เพราะโคตรๆ (และเป็นตัวฮาโคตรๆ เช่นกัน) กับอีกคนที่ลืมไม่ได้คือพี่เวสลี่ย์ (Alexis Denisof) ที่ปีนี้ดูเถื่อนและเท่ห์มากๆ ครับ และยังมีความสัมพันธ์แบบคาดไม่ถึงกับคนในวูลฟ์แรมแอนด์ฮาร์ทด้วย ก็ถ้าลอร์นคือสีสันด้านฮาๆ พี่เวสลี่ย์แกก็เป็นตัวถ่วงดุลด้านความเถื่อนล่ะครับ แต่พี่แกเท่ห์มากนะครับ เสียดายไม่ได้เอาภาพตอนถือปืนสองมือมาให้ดู คือมันเท่ห์จริงๆ อ้ะ เล่นหนังแอ๊คชั่นท่าจะรุ่งนะฮะ ทำเป็นเล่นไป
อีกตัวละครหนึ่งที่มาเพิ่มความวุ่นวายในภาคนี้ก็คือคอนเนอร์ (Vincent Kartheiser) ลูกของแองเจิ้ลที่มีการวางปมเรื่องเกลียดแองเจิ้ลมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาปีนี้เขาเลยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแองเจิ้ลตลอดครับ
และอีกตัวละครหนึ่งที่แม้จะโผล่น้อย แต่ก็เด่นพอดู และผมชอบด้วย ก็คือ เกวน เรเดน สาวผู้มีพลังไฟฟ้าครับ เธอน่ารักดีและมีเสน่ห์มากๆ ครับ เสียดายบทน้อยไปหน่อย
โดยรวมแล้วปีนี้มันส์ครับ สนุกมาก มีทั้งความฮาและความน่ากลัว ตอนที่ผมชอบก็มีเยอะครับ อย่างตอนที่บริษัทวูลฟ์แรมแอนด์ฮาร์ทกลายสภาพเป็นนรกนี่ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะมันไม่ต่างจากหนังสยองระดับเจ๋งๆ เลยล่ะครับ เหมือนพวก Night of The Living Dead ไรเงี้ย สยองมากจริงๆ ดูแล้วหดหู่ด้วยซ้ำ เพราะมันฆ่ากันโหดมากๆ และมันไม่ได้ตายแค่คนสองคนนี่ครับ เล่นโดนไล่ฆ่าทั่วบริษัท โหดมากจริงๆ
ถือเป็นปีที่มันส์สุดๆ แล้วล่ะครับ
สองดาวเฉียดสามดวงครับ
(7.5/10)