Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก
ช่างเป็นหนังที่เนื้อหาเหมาะเจาะกับสถานการณ์ที่คนกรุงและคนไทยกำลังเผชิญหน้ากันอยู่จริงๆ ในสภาวะที่มลพิษคืบคลานเข้าครองเมือง มีหนังเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นหนังหวังรางวัลอีกเรื่อง แต่กลับถูกเมินใส่แทบจะทุกเวที หนังที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับคดีบันลือโลก “Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก” เป็นหนังที่ดูเคร่งขรึม กับเนื้อหาหนักอึ้ง แต่ก็ทำให้คนดูสะอื้นจุกอก กับบทสรุปที่แสนจะสงสารพวกมนุษย์ตาดำๆ ด้วยกันเอง
ตัวอย่างหนัง Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก (ซับไทย)
หนังสร้างมาจากบทความในหนังสือพิมพ์ชื่อดัง เรื่องราวของ “โรเบิร์ต บิลอตตา” ทนายความดีเดือดผู้ยกความเสี่ยงต่อทั้งชีวิตตนเองและครอบครัว เพื่อเดินหน้ากัดไม่ปล่อยต่อคดีความของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ในฐานะผู้ผลิตสารเคมีในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ที่ปกปิดและแอบซ่อนความลับดำมืดที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ในเมืองหลายคน ด้วยสาเหตุการรั่วไหลของสารเคมีอันตรายร้ายแรงสู่ย่านที่พักอาศัย
มาร์ค รัฟฟาโล แปลงโฉมใน Dark Waters
“มาร์ค รัฟฟาโล” (จาก Avengers: Endgame) แปลงโฉมและพลิกบทบาทมารับบททนายความที่มีชีวิตอยู่จริง พร้อมทั้งยังทำหน้าที่แบกรับหนังทั้งเรื่อง 2 ชั่วโมงนิดๆ ได้อยู่หมัด ขณะที่การกำกับของ “ท็อดด์ เฮย์น” (จาก Carol) ก็ยังรักษามาตรฐานความเข้มข้นในการเล่าเรื่องแบบฉบับของเขาเอง
แต่คำถามก็คือ เพราะเหตุใดหนังเรื่องนี้จึงถูกเมินจากเวทีรางวัลต่างๆ ทั้งที่มีเนื้อหาอันทรงพลัง และทีมนักแสดงคุณภาพ เทียบชั้นพอๆ กับหนังสืบสวนวงการสื่อเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง “Spotlight” คงเป็นเพราะหนังยังขาดเสน่ห์ในเชิงซับซ้อนของการเล่าเรื่องไปนิด แม้จะเป็นหนังที่ดูสนุก แต่ก็ยังมีหลายจุดที่ชวนง่วงหงาวหาวนอนกับข้อมูลเยอะแยะที่ใส่เข้ามา
Dark Waters พลิกน้ำเน่าคดีฉาวโลก
เกือบชั่วโมงแรกของหนังเรื่องนี้ เป็นการปูทางและเรื่องราวๆ ที่เต็มไปด้วยเอกสารและข้อมูลเชิงสืบสวนหาข้อเท็จจริง กระทั่งประกายไฟจุดติด ประเด็นโดดเด่นขึ้นมา หนังก็พลิกหน้ากลายเป็นความสนุกที่เข้มข้น และเผยให้เห็นความจริงของความเห็นแก่ตัวที่น่าขยะแขยงไปพร้อมๆ กัน
หนังทิ้งไว้กับประโยคหนึ่งที่ว่า “…เราต้องช่วยเหลือตัวของเราเอง” เพราะคำตอบคือใครก็ช่วยไม่ได้ ภาครัฐ-รัฐบาลก็ถูกแทรกแซงจากผลประโยชน์ ปัจจุบันคดีที่หนังตีแผ่ออกมานั้น ยังทำการพิจารณาคดีไม่ถึงที่สิ้นสุด และอาจจะต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการไต่สวน เพราะมีโจทก์กว่า 3 พันรายที่ได้รับผลกระทบและสร้างความเสียหาย
มาร์ค รัฟฟาโล กับผู้กำกับ ท็อดด์ เฮย์น ใน Dark Waters
ข้อมูลทิ้งท้ายที่หนังโปรยเอาไว้ ยิ่งทำให้นึกสงสารตัวเองและประชากรทั้งโลก เพราะเราต่างซึมซับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายแบบที่ไม่รู้ตัว จากการใช้ชีวิตประจำวันของเรามาตั้งแต่แรกเกิด ทุกคนต่างเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจก่อขึ้น ไม่ว่าจะออกมาเรียกร้องแค่ไหน คนตัวเล็กๆ สู้กับอิทธิพลใหญ่ก็เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต่อสู้
แอนน์ แฮทธาเวย์ แสดงเป็นเมียทนายได้สมจริง
👍👍👍
1. หนังเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณมีมุมมองต่ออุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนเปลี่ยนไป บางคนถึงขนาดคิดอยากจะโยนกระทะ-ตะหลิวทิ้งไปเลยก็ได้
2. เป็นหนังเหมาะกับสถานการณ์ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ สูดดมฝุ่นควัน-เผชิญหน้าโรคระบาด สุดท้ายแล้วก็มีแค่ตัวเองที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง
3. หนังได้อัดแน่นข้อมูลที่ทำให้รู้สึกสนุกกับการดูไปด้วย เหมือนนั่งดูสารคดีเกี่ยวกับมลภาวะเรื่องหนึ่ง และคอยเอาใจช่วยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รับความธรรม
4. การแสดงของ มาร์ค รัฟฟาโล คือที่สุด เห็นถึงความทุ่มเทในบทบาทที่ได้รับ แม้จะยังไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดของเขา แต่ก็เข้าถึงคาแรกเตอร์เป็นอย่างมาก
5. แอนน์ แฮทธาเวย์ เป็นอีกคนที่ให้การแสดงได้สมกับการเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ ซึมลึกเข้าบทบาทสุดๆ ใส่อินเนอร์แม่บ้านทนายเต็มๆ จนลืมไปเลยว่าเธอเป็นซุปตาร์
6. นอกจากนี้ยังได้เห็นบุคคลตัวจริงที่เกี่ยวข้องความเหตุการณ์ดังกล่าว ร่วมมาปรากฏตัวอยู่ในหนังบางฉาก เพราะพวกเขาอยากจะมีส่วนร่วม และต้องการให้โลกได้รับรู้ถึงเรื่องนี้
🤏🤏🤏
– ด้วยความที่หนังมีเนื้อหาที่หนักอึ้งกับข้อมูลถาโถมไม่หยุด ก็อาจจะทำให้ง่วงนอนและคล้อยหลับไป เพราะแอร์ในโรงหนังมันเย็นสบายจริงๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง “Dark Waters”
ผู้สร้าง: คิลเลอร์ ฟิล์ม / พาร์ทิซิแพนท์
จัดจำหน่าย: สหมงคลฟิล์มฯ
ผู้กำกับ: ท็อดด์ เฮย์น
บทภาพยนตร์: แมทธิว ไมเคิล มาร์นาแฮน, มาริโอ คอร์เรีย
นำแสดงโดย: มาร์ค รัฟฟาโล, แอนน์ แฮทธาเวย์, บิล แคมป์, ทิม ร็อบบินส์, วิคเตอร์ การ์เบอร์, วิลเลียม แจ็กสัน ฮาร์เปอร์
เข้าฉาย: 23 มกราคม 2563
ความยาว: 126 นาที
—————————————————-