คู่นี้ 5 ดาว พลิกไปพลิกมาให้แฟนบอลได้ลุ้นตลอดทั้งเกม เริ่มจากจุดเปลี่ยนสำคัญ ฮูโก้ โยริส ช่วยเซฟจุดโทษไม่ให้ฝรั่งเศสเสียประตู 2-0 นาที 54 หลังจากนั้น 3 นาที คาริม เบนเซม่า ซัดเบิ้ลใน 3 นาทีให้ทีมพลิกขึ้นนำ 2-1 และ 3-1 จากลูกยิงสุดสวยของ ปอล ป็อกบา แต่สวิตเซอร์แลนด์ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ใช้เวลา 9 นาทีก่อนหมดเวลาไล่ตามตีเสมอ 3-3 ต้องต่อเวลา 120 นาที ก่อน คีเลี่ยน เอ็มบาปเป้ พลาดจุดโทษคนสุดท้าย ส่งสวิตเซอร์แลนด์พลิกนรกผ่านเข้ารอบไปได้ในท้ายที่สุด 5-4
ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ฝรั่งเศส 3 – 3 สวิตเซอร์แลนด์
(ต่อเวลาเสมอ 3-3, สวิตเซอร์แลนด์ชนะจุดโทษ)
สนาม : อาเรน่า นาติโอนาล่า, บูคาเรสต์, โรมาเนีย
ในนาทีที่ 15 เป็นฝั่งของสวิตเซอร์แลนด์มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สตีเวน ซูเบอร์ เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ ฮาริส เซเฟโรวิช เทกตัวโหม่งย้อนเข้าเสาแรกอย่างเด็ดขาด
ฝรั่งเศส ได้ลุ้นยิงจากฟรีคิก เอ็มบั๊ปเป้ กดด้วยขวา แต่บอลไม่เข้ากรอบในนาที 26 อีก 5 นาทีถัดมา ฝรั่งเศส เกือบโดนเพิ่มเมื่อเสียฟรีคิกที่ ชากิรี่ เปิดให้ บรีล เอ็มโบโล่ ได้โขกในเขตโทษ แต่หลุดกรอบ ฝรั่งเศส พยายามตามตีเสมอให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้จบครึ่งแรก สวิตเซอร์แลนด์ ทำเซอร์ไพรส์นำอยู่ 1-0
ในนาทีที่ 55 สวิตเซอร์แลนด์ มาได้จุดโทษเมื่อผู้ตัดสินเช็กเหตุการณ์ย้อนหลังที่ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ เสียบฟาวล์ใส่ สตีเว่น ซูเบอร์ ในเขตโทษ ริคาร์โด้ โรดรีเกซ รับหน้าที่ยิงไปเสาซ้ายมือตัวเองแต่ อูโก้ โยริส เดาทางถูกพุ่งเซฟเอาไว้ได้
ในนาทีที่ 57 ฝรั่งเศสตามตีเสมอ 1-1 เมื่อ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ จ่ายบอลให้ คาริม เบนเซม่า ที่เหมือนจะเกี่ยวไม่ติดแต่บอลก็เด้งเข้าทางก่อนยิงสวน ยานน์ ซอมเมอร์ ตุงตาข่ายนิ่มๆ
ในนาทีที่ 59 โมเมนตัมของเกมพลิกต่อเนื่องเมื่อเป็นฝรั่งเศสที่นำ 2-1 เอ็มบั๊ปเป้ ไหลบอลให้ กรีซมันน์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนงัดข้ามตัว ซอมเมอร์ เลยเสาไกล เบนเซม่า ขึ้นโหม่งจ่อๆ ง่ายๆ เข้าไปเป็นประตูที่ 2 ของเขา
ในนาทีที่ 68 เกมรับของสวิตเซอร์แลนด์รวน นิโค่ เอลเวดี้ โหม่งเคลียร์บอลยาวย้อนหลัง แต่สื่อสารพลาดกับ ยานน์ ซอมเมอร์ จนบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง
ในนาทีที่ 75 ฝรั่งเศส นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ เบนเซม่า ยิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลเด้งเข้าทาง ปอล ป็อกบา ยืนปั่นด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลลอยโค้งสามเหลี่ยมงามหยด ยานน์ ซอมเมอร์ พุ่งสุดตัวแต่ปัดไม่ถึง
ในนาทีที่ 80 สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ถอดใจไล่มาเป็น 3-2 จากการบุกทางขวา เควิน เอ็มมาบู เปิดบอลจากขวาเข้าเขตโทษได้น้ำหนักทิศทางเป๊ะเข้าหัว ฮาริส เซเฟโรวิช โขกเน้นๆ ตุงตาข่าย
ในนาทีที่ 85 สวิตเซอร์แลนด์ ส่งบอลตุงตาข่ายได้จากการยิงไกลของ ริคาร์โด้ โรดรีเกซ ที่เข้าทาง มาริโอ กาฟราโนวิช ได้เกี่ยวก่อนยิงจ่อๆเข้าไป แต่ตำแหน่งของ กาฟราโนวิช ยืนล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้ว
ในนาทีที่ 90 เกมทำท่าว่าจะเป็นชัยชนะของฝรั่งเศส แต่แล้วนาทีสุดท้าย สวิตเซอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 3-3 ได้สำเร็จ กรานิต ชาคา จ่ายบอลทะลุช่องสุดสวยให้ มาริโอ กาฟราโนวิช ยิงในเขตโทษผ่านมือ โยริส เข้าประตูไป
ช่วงทดเจ็บ ฝรั่งเศส เกือบได้เฮเมื่อ คิงส์เลย์ โกมัน ได้พักอกยิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลผ่านมือ ซอมเมอร์ ไปแล้วแต่บอลชนคานอย่างจัง ต่อเวลาได้ 3 นาที ฝรั่งเศส ต้องเปลี่ยน เบนเซม่า ที่เจ็บออกไปแล้วส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงแทน
ฝรั่งเศส เกือบนำอีกรอบเมื่อ โกมัน สร้างโอกาสให้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ได้ยิงในเขตโทษ ยานน์ ซอมเมอร์ ต้องปัดปลายมือออกกหลัง
ช่วงเวลาที่เหลือของการต่อเวลา ฝรั่งเศส ครองบอลได้มากกว่าและมีจังหวะยิงเรื่อยๆ แต่โอกาสจะแจ้งไม่มี ในนาที 119 จากลูกโขกของ ชิรูด์ ที่ทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้วแต่ ยาน ซอมเมอร์ บินคว้าเอาไว้ได้หวุดหวิด
สุดท้ายจบ 120 นาทีเสมอกัน 3-3 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษเป็นคู่แรกของยูโรหนนี้ซึ่งเป็น สวิตเซอร์แลนด์ ยิงได้แม่นยำกว่าเข้าทั้ง 5 คนแรก ส่วนฝรั่งเศสพลาดคนสุดท้ายคือ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ยิงติดเซฟ
“ข่าวสารวงการฟุตบอลอัพเดทใหม่ล่าสุด ผลบอลสดทุกวัน บทความอัพเดทจาก Ufabet เว็บพนันออนไลน์ “