ว่าตามจริง ผมออกจะชอบภาคนี้มากกว่าที่คิดนะครับ
หนนี้ฉินเฟิง (หลิวเฮ่าหรัน, Haoran Liu) กับถังเหริน (หวังเป่าเฉียง, Baoqiang Wang) ลุงหลานยอดนักสืบถูกเชิญไปโตเกียวเพื่อช่วยเจ้าพ่อวาตานาเบะ มาซารุ (Tomokazu Miura) ให้หลุดจากคดีครับ
ประมาณว่าเป็นฆาตกรรมในห้องปิดตาย ในห้องที่ว่ามีแต่วาตานาเบะกับผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่วาตานาเบะยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำ ทีนี้ 2 นักสืบบวกด้วยโนดะ ฮิโรชิ (Satoshi Tsumabuki) ยอดนักสืบแห่งโตเกียวเลยต้องมาร่วมมือกันแข่งกับเวลาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของวาตานาเบะให้จงได้
เรื่องหลักก็ว่าด้วยคดีนี้นะครับ แล้วก็ยังมีพล็อตรองว่าด้วยการมาของ Q ยอดนักสืบปริศนาที่ถูกกล่าวถึงตั้งแต่ภาคที่แล้ว มาคราวนี้ Q ก็มีแผนป่วนเหล่านักสืบของเราด้วย
ยังไม่หมดครับ ยังมีนักสืบจากประเทศไทยอย่างแจ็ค จา (พี่จา พนม) โผล่ไปร่วมไขคดีกับเขาด้วย
ถ้าถามว่าสนุกไหม สำหรับผมก็ว่ายังสนุกอยู่ครับ แม้ส่วนใหญ่คนจะบอกว่าภาคนี้สนุกน้อยที่สุดก็ตาม แต่อาจเพราะผมดูมา 2 ภาคแล้วรับกับสไตล์ของหนังได้แล้ว และมันถูกเส้นเข้าทางผมพอดี
สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับหนังก็ไล่เรียงไปตั้งแต่ความบ้าบอของคู่ลุงหลานก็ยังมีมาเรื่อยๆ แล้วเสริมด้วยความขี้เก๊กของโนดะอีก เวลาพวกเขามาร่วมจอกันมันก็ดูเพลินดีน่ะครับ
แล้วโดยส่วนตัวผมชอบบทของพี่จานะ คือพี่เขาอาจไม่ได้เล่นลื่นไหลไปเสียทุกส่วน แต่ความนิ่งๆ แข็งๆ หรือความไม่เข้าพวกบางประการของพี่เขา บางทีผมว่ามันก็ขำไปอีกแบบ
ยิ่งตอนพี่ท่านแต่งคอสเพลย์ไปเดินกลางถนนนี่ยอมรับว่าขำมากๆ อาจเพราะผมชอบตัวการ์ตูนที่ว่านี่มากๆ อยู่แล้วด้วย แล้วพี่จาไปใส่ชุดตัวการ์ตูนนี้ซึ่งตัดกับคาแรคเตอร์พี่เขามากๆ มันเลยอดฮาไม่ได้ครับ ยอมรับว่าชอบจริงๆ (แล้วพี่เขาก็กล้าแต่งอีกด้วยนะ ปรบมือให้เลย 5555)
อีกอย่างคือประเด็นต่างๆ ในภาคนี้มันทำให้หนังมีอะไรให้ติดตามไปเรื่อยๆ น่ะครับ ช่วงต้นๆ ก็ติดตามรายละเอียดของคดีวาตานาเบะ แล้วตอนกลางๆ ก็มาว่ากันถึงเกมของ Q ต่อ ก่อนจะขมวดปมมาที่คดีของวาตานาเบะอีกครั้ง แต่ละช่วงมันมีปมให้ตาม แต่ละฉากมันมีผลต่อเรื่องราวในลำดับถัดมา แฝงอารมณ์ผจญภัยลุยด่านเข้าไปอีก เลยรู้สึกว่าดูเพลินไปได้เรื่อยๆ
แล้วที่ขาดไม่ได้คือฉากแจกแจงไขคดีสไตล์ฉินเฟิง ภาคนี้ก็นำเสนอออกมาได้น่าสนใจดีเหมือนเดิมครับ ไหนจะฉากไคลแม็กซ์ตอนท้ายเมื่อคดีขมวดไปถึงจุดเฉลย ที่มาที่ไปของคดีในภาคนี้ก็ถือว่าสะเทือนใจไม่น้อย
สำหรับผมมันเลยโอเคน่ะครับ เพราะมีอะไรมาดึงความสนใจ มีปมมาชงให้คิดตลอดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเรื่องจะไปทางไหนต่อ
อาจเพราะผมเอา 3 ภาคมาดูต่อๆ กันจนจับทางหนังได้แล้วน่ะครับ มันคือหนังสืบสวนปนฮาที่ใส่ลีลาแฟนตาซีลงไป เรื่องมันเลยจะมีความเว่อร์หรือติดการ์ตูนอยู่บ้าง และคงเพราะผมชอบแนวทางนี้น่ะครับ ก็เลยกลายเป็นสนุกสนานกับมันไป
อีกอย่างผมว่าฉากในเรื่องมันดูยิ่งใหญ่ดีครับ เอาแค่ฉากปิดแยกชิบูย่าก็ดูลงทุนเอาการแล้ว และผมชอบฉากตรง Long Q Hall (อุโมงค์ระบายน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่ญี่ปุ่น) ฉากนี้ได้อารมณ์อลังมากครับ มันดูยิ่งใหญ่และเข้ากับอารมณ์ของเรื่องราวในฉากนั้นมากๆ ทีเดียว ได้อารมณ์ความเป็นหนังผจญภัยผสมเข้าไปอีก อันนี้ยิ่งชอบครับ
ภาคนี้ทุนสร้างเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัวครับ ลงทุนไปราวๆ $116 ล้าน แต่ถ้ามองกันที่รายได้ก็คุ้มล่ะครับเพราะทำเงินไปกว่า $686 ล้าน (ในจีนนี่ทำเงินชนะ Avengers: Endgame ด้วยครับ) จนไม่แปลกใจที่จะมีภาค 4 ตามออกมา ซึ่งพูดก็พูดนะครับ ตอนนี้ผมว่าผมเป็นแฟนหนังชุดนี้ไปแล้ว ทำให้อยากดูภาค 4 มากเลย ยิ่งตอนท้ายมาทิ้งเชื้อโดยการเปิดหน้าตัวละครตัวหนึ่งซึ่งมีการวางไว้แล้วว่าพี่เขาจะมาเป็นตัวร้ายในตอนต่อๆ ไป ความอยากดูยิ่งทวีครับ (อารมณ์ตอนเห็นหน้า “พี่คนนั้น” นี่ผมพีคพอๆ กับตอนเห็นหน้าลุง Samuel L. Jackson ในตอนท้าย Iron Man ภาคแรกเลยครับ)
ไม่ปฏิเสธครับว่าหนังอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไร บทอาจมีช่องโหว่หรือเบาบ้างในบางประเด็น แต่สำหรับผมแล้ว หนังดูเพลินแบบพอเหมาะครับ จะเอาฮาก็ได้ (แรงเสริมสำคัญหนีไม่พ้นทืีมพากย์พันธมิตร) ในแง่การสืบคดีก็ถือว่ายังพอมีอะไรให้ติดตาม มีการทิ้งปมวางปมไม่เลว แล้วภาคนี้พ่วงอารมณ์หนังผจญภัย แล้วใส่ดราม่าลงไปอีก สำหรับผมถือว่าครบเครื่องอยู่ครับ แม้เครื่องจะไม่เข้มแบบสุดๆ แต่ก็ถือว่าโอเคแล้ว
ยิ่งหนังสืบสวนแบบนี้มีน้อยในยุคสมัยที่หนังซูเปอร์ฮีโร่ครองเมือง ผมก็ยิ่งรู้สึกโอเคกับหนังชุดนี้น่ะครับ ประมาณว่ามีคนทำมาให้ดูก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
แล้วที่สำคัญคือหนังก็ไม่ได้ออกมาแบบกระโหลกกะลาด้วย มันยังถือว่าโอเคได้มาตรฐานในระดับหนึ่ง ก็เลยรู้สึกเชิงบวกต่อหนังน่ะครับ
แล้วผมชอบฉากปิดเรื่องนะครับ พวกพลุไฟต่างๆ สถานที่ต่างๆ มันดูสวยงามดี เพลงที่ใส่ลงมาก็เข้ากับอารมณ์อีกด้วย… บางอย่างอาจดูเชยๆ นะครับ อาจดูประดิษฐ์ไปบ้าง แต่ส่วนลึกของผมคงคิดถึงอะไรแบบนี้น่ะครับ มันเลยกลายเป็นความชอบอกชอบใจไป
รับประกันครับว่าต้องมีคนเฉยๆ หรือไม่ชอบหนังเรื่องนี้แน่นอน (555) แต่กระนั้นก็อยากให้ลองครับ เผื่อท่านจะชอบ เพราะผมเองตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะชอบนะ แต่พอได้ดูก็กลายเป็นแฟนหนังชุดนี้ไปซะอย่างนั้น
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ… เราจะชอบหรือไม่ เราเองนี่แหละครับที่จะตอบได้
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)