แก๊งม่วนป่วนนิวยอร์ก 2 (2018) Detective Chinatown 2

Untitled07361

ภาคนี้สเกลใหญ่ขึ้นกว่าภาคแรกครับ เอาแค่ทุนสร้างก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้ว (ภาคแรกทุนสร้าง $15 ล้าน ส่วนภาคนี้ทุนพุ่งเป็น $63 ล้าน)

เหตุภาคนี้ไปเกิดในนิวยอร์กครับ เมื่อหลานของลุงเจ็ด (เจิงเจียง, Kenneth Tsang) เจ้าพ่อชาวจีนประจำเมืองโดนฆาตกรรม เขาเลยเกณฑ์นักสืบจากทั่วโลกมาร่วมไขคดี ใครก็ตามที่สามารถจับฆาตกรได้ ก็รับเงินสด $5 ล้านไปได้เลย

ถังเหริน (หวังเป่าเฉียง, Baoqiang Wang) ก็เลยลากฉินเฟิง (หลิวเฮ่าหรัน, Haoran Liu) มาช่วยสืบเพราะหวังจะซิวเงินรางวัลครับ แต่กว่าจะไขคดีได้ก็เล่นเอาอ่วมเหมือนเคย

จะว่าไปผมชอบรายละเอียดของภาคนี้นะครับ อย่างที่บอกว่าสเกลใหญ่ขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะไปถ่ายที่นิวยอร์กเท่านั้น แต่มีการเปิดตัวนักสืบคู่แข่งของฉินเฟิงอย่าง โนดะ ฮิโรชิ (Satoshi Tsumabuki), แฮคเกอร์สาวนืกสืบนามว่า คิโกะ (Yuxian Shang) ไหนจะนักสืบรายอื่นๆ อีก แล้วตัวร้ายประจำภาคก็มาพร้อมแผนที่ใหญ่ขึ้นด้วย

แต่เอาเข้าจริงหนังก็เล่าออกมาในระดับกลางๆ ครับ ก็พอจะเดาได้อยู่แล้วล่ะว่าเหล่านักสืบรายอื่นๆ คงมีบทไม่มาก หลักๆ ก็ให้ถังเหรินกับฉินเฟิงลงสนามพร้อมป่วนชาวบ้านไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยรวมๆ แล้วก็พอๆ กับภาคแรกน่ะครับ มีฉากวิ่งหนีการไล่ล่าตามสูตร มีมุกฮาโบ๊ะบ๊ะประปราย

ส่วนคดีก็จะค่อยๆ ทิ้งปมวางปมให้เราตามไปเรื่อยๆ จนพอถึงช่วงท้ายปมก็จะขมวด เปิดโอกาสให้หนังโชว์ฉากจำลองเหตุการณ์ปะติดปะต่อคดี ซึ่งก็ถือเป็นไฮไลท์ที่เข้าท่าเหมือนเดิม

Untitled07362

โดยส่วนตัวผมชอบภาคนี้พอๆ กับภาคแรกครับ ระดับความสนุกและความวุ่นวายก็พอๆ กัน ในแง่ของบทก็พอกันอีกครับ คือไม่ถึงกับแน่นมากๆ แต่ก็ถือว่าพอได้ พอมีเนื้อเรื่องและมีปมให้ผู้ชมติดตามไปจนจบ แล้วก็ปิดท้ายด้วยมุกหักมุมที่แม้จะไม่ใหม่ แต่ก็ถือว่าเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรื่องราวได้ไม่เลวและที่สำคัญคือยังเป็นการทิ้งเชื้อเพื่อเปิดเรื่องราวต่อไปให้กับหนังชุดนี้อีกด้วย

ตัวละครที่น่าจดจำในภาคนี้ก็ยังมี Natasha Liu Bordizzo มารับบทเป็นตำรวจสาวสุดสวยขวัญใจของถังเหริน รายนี้สวยและน่ารักดีครับ อีกคนก็คือ Yang Xiao ที่ภาคก่อนรับบทคุนไท่ แต่มาภาคนี้รับบทเป็นตัวละครนามว่าซ่งอี้ ผู้ต้องสงสัยของคดีฆาตกรรม รายนี้ก็ถือว่าเล่นได้พอเหมาะอีกเช่นกัน

หนังยังคงกำกับโดย Sicheng Chen เหมือนเดิม จังหวะของหนังเลยมาทางเดียวกับภาคที่แล้ว และเขายังโผล่มาเล่นรับเชิญในหนังด้วยครับ (คนที่เป็นแฟนของอาเซียงที่โผล่มาตอนท้าย ซึ่งในชีวิตจริงเขาก็คือสามีของ Liya Tong คนที่เล่นเป็นอาเซียงนั่นแหละครับ)

ภาคนี้โกยกระหน่ำทำเงินยิ่งกว่าภาคแรกครับ โกยไป $544 ล้าน (แน่นอนว่าเกือบทั้งหมดคือรายได้ในจีนนั่นเอง) ฮิตจนไม่แปลกใจที่จะมีการทำภาคต่อออกมาอีก

ไปๆ มาๆ ผมโอเคกับหนังชุดนี้ครับ คือไม่ถึงกับชอบมากมาย แต่ดูได้เพลินๆ และว่างๆ ก็กะจะเอามาดูซ้ำอีกครับ มันตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดี

ยิ่งบ้านเราได้พลังจากทีมพากย์พันธมิตรมาช่วยก็ยิ่งกลมกล่อมขึ้นไปอีก เอามาเปิดเป็นเพื่อนแก้เหงาได้สบายๆ เลย

จะว่าไปแล้วหนังก็ถือเป็นแนวสืบสวนเบาสมองที่ทำได้ไม่เลวนะครับ และต้องยอมรับว่าหนังแนวนี้ไม่ค่อยมีทำออกมาสักเท่าไรในระยะหลังๆ ดังนั้นพอชุดนี้ทำออกมาแล้วพอจะโอเค พอจะสนุก ก็เลยรู้สึกถูกจริตได้แบบไม่ยากเย็น แม้ว่ามันจะไม่ได้สุดยอดมากมายก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ดูแล้วขำดี หรือประเด็นการไขคดีก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง ไม่ได้ใส่ลงมาแบบขอไปที

สรุปว่าใครชอบภาคแรกก็ตามมาดูภาคนี้ได้ครับ หรือใครชอบหนังแนวสืบสวนเบาสมองก็ลองหนังชุดนี้ดู ไม่แน่ครับว่าท่านอาจจะสนุกกับหนังแบบที่ผมรู้สึกสนุกก็ได้

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)

Detective Chinatown (2015)