ก่อนดูนี่พยายามลดความคาดหวังไปพอสมควรครับ แต่ยอมรับว่าพอรู้ว่า เจ้าเหวินจั๋ว กลับมารับบทหวงเฟยหงอีกครั้ง มันก็อดไม่ได้ที่จะแอบหวังอยู่หน่อยๆ
ผมดูหนังเรื่องนี้โดยไม่รู้พล็อตไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเลยครับ ครั้นพอดูไปสัก 10 นาทีก็เริ่มตะหงิดนิดๆ เพราะเนื้อเรื่องมันดูจะเกี่ยวกับการทดลอง ประมาณว่าพวกผู้ร้ายจับคนมาทดลองยาสูตรใหม่แล้วเจ้ายาที่ว่านี่ก็ทำให้คนกลายเป็นอะไรที่มันคล้ายซอมบี้น่ะครับ กลายเป็นคนขาดสติที่ไล่ทำร้ายคนแล้วก็มีเส้นเลือดขึ้นทั้งตัว
แล้วมันไปเกี่ยวกับอาจารย์หวงได้อย่างไร? ก็พอดีที่เหตุมันมาเกิดในเมืองที่อาจารย์หวงเฟยหงอยู่น่ะสิครับ ทีนี้อาจารย์หวงก็มีโอกาสได้เจอคนที่ถูกทดลอง อาจารย์เลยพยายามสืบหาความจริงและหาทางช่วยรักษาคนที่มีอาการแบบนี้ไปด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีพล็อตรองเกี่ยวกับยอดฝีมือคนใหม่ที่เดินทางมายังเมืองนี้เพื่อเปิดสำนักสอนวิชาหมัดมวย แล้วก็ต้องมีเรื่องให้เขม่นกับอาจารย์หวงตามสูตรน่ะครับ
รู้ไหมครับว่าตอนแรกผมนี่กลัวเลยนะว่ามันจะกลายเป็นหนังซอมบี้ไหม ประมาณว่าอาจารย์หวงต้องมาไล่ฟัดกับซอมบี้ทั่วเมือง ก็ปรากฎว่ามันไม่ถึงขนาดนั้นครับ ดีที่หนังจำกัดฤทธิ์ของยาพิษที่ว่าแค่ทำให้คนกลายเป็นคนคลั่ง มีพลังเยอะ แล้วก็มีเส้นเลือดขึ้นทั่วตัวเท่านั้นเอง
ทีนี้มาว่ากันที่ตัวหนัง จริงๆ องค์ประกอบมันก็คือหนังหวงเฟยหงแบบเต็มๆ น่ะครับ เปิดมาแนะนำให้เรารู้จักกับอาจารย์หวงและลูกศิษย์ ตามด้วยอาจารย์หวงต้องไปรับน้าสิบสามที่เพิ่งเดินทางกลับมา ซึ่งน้าสิบสามก็จะต้องเป็นคนชอบวัฒนธรรมตะวันตกตามสูตร แล้วจากนั้นก็ต้องมีเรื่องให้อาจารย์หวงประลองฝีมือกับใครต่อใคร ก่อนจะลงท้ายด้วยการประจัญบานกับตัวร้าย เนี่ยครับ มันลงสูตรหวงเฟยหงจริงๆ
แต่ทว่าความสนุกนั้น ต้องบอกว่าคนละชั้นกับหวงเฟยหงสมัยก่อนครับ อย่างแรกก็เพราะนอกจาก เจ้าเหวินจั๋ว แล้ว ตัวละครอื่นๆ ก็ใช้ดาราใหม่หมด ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้เด่นสักเท่าไร มิหนำซ้ำยังตัวละครส่วนใหญ่ยังออกแนวเจ้าอารมณ์, สมองน้อย, ทำตัวเหมือนเด็ก ชอบต่อยตีและกวนทีน ทำให้บางทีก็อดรู้สึกรำคาญไม่ได้ เพราะดูจะมีแค่อาจารย์หวงคนเดียวน่ะครับที่คาแรคเตอร์ยังพอเหมาะพอดี
ฉากต่อสู้ก็ไม่มีอะไรเด่นครับ เน้นใช้สลิงกับมุมกล้องมากไป ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ตัวละครออกหมัดซัดกันแบบถึงใจ ซึ่งจริงๆ ผมว่าเจ้าเหวินจั๋วก็ยังมีลีลาไว้ลายอยู่ครับ เวลาพี่ท่านออกหมัดซัดคู่ต่อสู้ก็ยังดูเท่ห์และองอาจอยู่ เพียงแต่ภาพที่หนังจับมานั้นไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เขาได้ออกลีลาพริ้วๆ สักเท่าไร และที่น่าเสียดายคือปริมาณฉากบู๊ก็มีน้อยเสียด้วย
ด้านเนื้อหาก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นครับ ทุกอย่างลงสูตรหมด เช่น ตัวร้ายต้องร้ายและเหี้ยม (แต่ไม่ฉลาดเท่าไร) แล้วก็จะมีคนในหมู่ตัวร้ายซึ่งถึงจุดหนึ่งก็จะกลับใจ หรือไม่ก็จะมีตัวละครที่เรานึกว่าโดนฆ่าตายไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่ตาย คือมันเดาได้ไม่ยากจริงๆ
ว่าตามจริงแล้ว หนังสมัยใหม่แบบนี้จะมีข้อได้เปรียบคือกล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ชัดกว่าหนังสมัยก่อน แต่ปัญหาคือภาพชัดก็ไม่มีประโยชน์ครับหากบทมันไม่เข้ม และลีลาการบู๊มันไม่ถึงจิตถึงใจ
จัดเป็นหนังหวงเฟยหงที่ขอดูแค่ครั้งเดียวพอครับ… ขนาดไม่หวังแล้ว ยังรู้สึกผิดหวังเลย
ดาวครึ่งครับ
(5/10)