สตรีเหล็ก ตบโลกแตก (อานนท์ มิ่งขวัญตา / Thailand / 2014 / C-) E+5-20 for Enjoy เรื่องราวไม่ได้ห่างไกลจากความคาดคิดเลย แต่มุกทั้งหลายแหล่ก็ยังทำงานได้ดี มุกที่ว่าเสื่อมก็ยังไม่เล่าแบบเส็งเคร็งเท่ากับในเรื่อง ‘ตัวพ่อเรียกพ่อ’ ถึงมุกเห่ยกับมุกส่วนเกินอยู่เยอะแต่ก็ยังเป็นไปตามเรื่องราวให้คนดูซ้ายขวาหน้าหลังหัวเราะกันจนเหนื่อยหอบ แก๊งหนุ่มสาวเบาะหลังเค้าขำกันจริงจังจนบ่นออกมาให้ได้ยินว่า ‘กูเหนื่อย’ สองสาวเบาะข้างๆ ก็คิกคักและกรี๊ดกร๊าดทุกเฟรมภาพที่มีคนหล่อ และเลิฟซีนชายๆ ที่ทำให้ทั้งสองสาวนั่งไม่ติดเก้าอี้ ไปจนถึงมุกตลกประกบปากเอาฮาของตัวละครกะเทยตัวตลกบางคู่ที่ทำให้ออกอาการอี๋จนหน้าหยีปนขำกันไป และคอสตูมเสื้อผ้าของตัวละครกะเทยทั้งหลายที่ผิดมนุษย์มนาปกติจะสวมใส่ออกนอกบริเวณเคหะสถานเสียเหลือเกินก็เรียกเสียงหัวเราะและเสียงวิจารณ์สดๆ ในโรงได้ง่ายดายที่สุดเพียงแค่ตาเห็น นี่แหละคือวิธีการที่หนังทำงานกับคนดูซึ่งยังคงได้ผลกับคนดูส่วนหนึ่ง… ถึงจะดีกว่า ‘วัยเป้งนักเลงขาสั้น’ อยู่ที่ว่ามันไม่ได้ยัดเยียดทัศนคติแฟนตาซีเกินโลกความเป็นจริงมาสรุปหนังง่ายๆ แต่สำหรับคนดูที่หวังดูเอาเรื่องก็ต้องชินชาไปตามปกติเพราะแน่นอนว่าหนังมันเล่นตลกเกินจริงนำหน้าทุกๆ ส่วนประกอบ รู้สึกว่าผู้กำกับจะวาง ฟิล์ม รัฐภูมิ ในบทตัวแม่ของทีมให้เด่นสุด แต่เรื่องราวของตัวละครตัวอื่นกลับกลบตัวละครของฟิล์มซะแทบมิดเลย โดยเฉพาะ เขื่อน K-OTIC กับบทนักศึกษาหนุ่มตี๋ครอบครัวจีนที่ดราม่าแม่ไม่ยอมรับเพราะหาว่าผิดเพศ(แอบเซอร์ไพรส์หน่อยๆ ที่เห็น ดวงตา ตุงคมณี มาเล่นหนังเรื่องนี้) และตามอีหร็อบเดิมๆ ก็คือสุดท้ายแม่ก็วิ่งมาเชียร์ข้างสนาม และคู่ของ แจ๊ส ชวนชื่น(กะเทยเด็กช่าง) กับ แท็ค ภรัณญู(กะเทยเข็นผักตลาด) ที่คาแร็กเตอร์ ความสัมพันธ์และคอสตูมแย่งซีนคนอื่นเสียเหลือเกิน มีส่วนทำให้ตัวละครของฟิล์มกลายเป็นแค่จุดสนใจรอง บวกกับการแสดงของฟิล์มที่ยังดูขัดๆ เขินๆ ถึงจะอ้างแทนว่าเป็นเพราะคาแร็กเตอร์นิ่งขรึมดูเป็นผู้นำต่างจากตัวละครกะเทยอื่นๆ ในหนัง แต่ฟิล์มเหมือนเป็นมิสแคสต์ในเรื่องที่ไม่เหมาะกับการเป็นกะเทยอย่างยิ่ง แต่ถ้าเปรียบกับการแสดงของ ต๊อบ ชัยวัฒน์(กะเทยนางงามล่ำร่างยักษ์) กับ โซ่ AF(กะเทยนางโชว์ภูเก็ต) สองคนนี้นี่ดูเป็นธรรมชาติและไหลลื่นกับบทบาทที่ออกหน้าออกตาสีหน้าท่าทางที่สุด