วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564
เอฟเอ คัพ รอบ4 : แมนฯ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล
เวลา : 00:00 น.
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2
เรตราคาไทย : เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
16/12/18 ลิเวอร์พูล 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
24/02/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
20/10/19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
19/01/20 ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
17/01/21 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
06/01/21 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (เหย้า, คาราบาว คัพ)
09/01/21 ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เหย้า, เอฟเอ คัพ)
12/01/21 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
17/01/21 เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
20/01/21 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล
30/12/20 เสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
04/01/21 แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
08/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1(เยือน, เอฟเอ คัพ)
17/01/21 เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
21/01/21 แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
สภาพทีมโดยทั่วไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เจ้าถิ่น ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เตรียมเปลี่ยนแผนจาก 4-2-3-1 กลับมาเล่น 4-3-1-2 แบบไดมอนด์ และโรเตชั่น มาร์คัส แรชฟอร์ด, เนมานย่า มาติช, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเล็กซ์ เตลเลส และ ดีน เฮนเดอร์สัน
ลิเวอร์พูล
ฟากทีมเยือน ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังขาด เวอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ, นาบี เกอิต้า และ ดีโอโก้ โชต้า บาดเจ็บ ส่วน จอร์จินิโอ ไวนัลดุม กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า จะได้พัก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มาในระบบ (4-3-1-2) : ดีน เฮนเดอร์สัน ,อารอน วาน-บิสซาก้า, เอริก ไบยี่ , แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส ,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา ,บรูโน่ แฟร์นันด์ส ,มาร์คัส แรชฟอร์ด , เอดินสัน คาวานี่
ลิเวอร์พูล
มาในระบบ (4-3-3) : อลีสซอน เบ็คเกอร์ ,เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , โจเอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์,โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ซาดิโอ มาเน่ , โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ความน่าจะเป็นของเกม
เจ้าบ้าน ฟอร์มระยะหลังดีเยี่ยมด้วยการกลับมาเข้าวิน 3 ใน 4 นัดหลัง รวมทั้งเพิ่งเก็บชัยในเกมล่าสุด และไร้พ่ายจากการลงสนาม 4 นัดหลัง รวมทั้งสะดุดแพ้เพียงเกมเดียวตลอด 12 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเหย้ากลับมาแข็งแกร่ง
ทีมเยือนฟอร์มช่วงหลังอาการแผ่วไปมาก คว้าชัยแค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 6 นัดที่ผ่านมา และเพิ่งแพ้ในเกมล่าสุด ทำให้เป็นความปราชัย 2 เกมจาก 4 นัดหลัง รวมทั้งทำประตูไม่ได้มาถึง 4 เกมจาก 5 นัดหลัง ส่วนเกมเยือนยังทำได้ไม่ดี แมตช์นี้ “ปีศาจแดง” ยังอยู่ในโมเมนตัมที่ดีกว่า และได้เปรียบจากการเล่นในบ้านเก็บผลเสมอจาก “หงส์แดง” ในเวลาปกติได้เป็นอย่างน้อย
สกอร์ที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล
เชียร์บอลฟันธง : ปีศาจแดง