อย่างที่เราบ่น ๆ เกริ่น ๆ อยู่บ่อยครั้งว่า หนังโรแมนติกคอมเมดี้ในยุคนี้เป็นประเภทหนังที่แทบจะหาดูตามโรงหนังไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เพราะหนังแนว ๆ กลายถูกเบียดกระเด็นให้กลายเป็นเพียงหนังสตรีมมิ่งแทบจะทั้งหมด และแล้วการกลับมาของวิถีหนังรอมคอมก็กำเนิดขึ้นกับ “Ticket to Paradise ตั๋วรักสู่พาราไดซ์” หนังรักเรื่องล่าสุดของฮอลลิวูด ที่มีทีเด็ดที่ตัวนักแสดงหลักโดยเฉพาะ!
Ticket to Paradise เล่าเรื่องราวของอดีตสามีภรรยาที่พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการหยุดงานแต่งงานของลูกสาวที่กำลังตกหลุมรักกับหนุ่มท้องถิ่นชาวเกาะที่อินโดนีเซียอย่างหน้ามืดตามัว จากทริปหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย และเพื่อไม่ให้ลูกสาวต้องทำอะไรผิดพลาดเหมือนกับพวกเขา ปฏิบัติการจับแยกความรักที่ยังไม่เหมาะสมกับเวลาในครั้งนี้..จึงได้เริ่มต้นขึ้น
เพียงแค่ได้เห็นว่าตัวพ่อตัวแม่แห่งหนังโรแมนติกเมื่อในอดีตจะกลับมาแท็กทีมกันในหนังเรื่องนี้ ก็รู้สึกหูผึ่งขึ้นมาทันที พระเอกเจ้าเสน่ห์ “จอร์จ คูลนีย์” กับนางเอกสาวบานฉ่ำ “จูเลีย โรเบิร์ตส์” พวกเขาต่างได้ชื่อว่าเป็นพระเอกนางเอกที่ประสบความสำเร็จจากการเล่นหนังรัก ในช่วงยุคปี 90s มาถึง 00s ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไปเลือกเส้นทางอาชีพนักแสดงในแบบของตัวเอง และห่างหายไปจากหนังแนวนี้ไปนาน
Ticket to Paradise นับว่าเป็นหนังรอมคอมเรื่องแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษของ จูเลีย โรเบิร์ตส์ เลยก็กว่าได้ เธอเคยบอกว่าเธอหมดแพสชั่นกับการเล่นหนังเป็นสาวบานฉ่ำมาหลายปี และไม่คิดที่จะกลับมารื้อฟื้นฉายานี้อีกครั้งเท่าไหร่ แต่เมื่อโอกาสดีเช่นนี้มาถึงตัว และเป็นการร่วมงานกับเพื่อนในวงการของเธอ อย่าง จอร์จ คูลนีย์ ทำให้เธอตัดสินใจกลับมาเล่นหนังรักอีกครั้งหนึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น หนังเรื่องนี้ยังได้ผู้กำกับที่จัดได้ว่าเป็นเจ้าพ่อหนังรักยุคใหม่ อย่าง “โอล พาร์คเกอร์” ที่ปังสุด ๆ กับงานชิ้นก่อน Mamma Mia! Here We Go Again และเขายังเขียนเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย กำกับจากชิ้นงานที่ปลุกปั้นสร้างเองเกือบทั้งหมด แถมยังได้อดีตคู่ขวัญพระนางหนังรอมคอมในอดีตคืนจอด้วยกันอีกครั้ง มันช่างเพอร์เฟคจริง ๆ
แต่กระนั้น Ticket to Paradise ก็ยังเป็นแค่หนังโรแมนติกคอมเมดี้สูตรสำเร็จที่แทบจะหาความแปลกใหม่อะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างเหมือนจับวาง ๆ องค์ประกอบและชิ้นส่วนต่าง ๆ เหมือนซื้อเป็นแพ็คเกจเดิมมาปรุงแต่งไว้ตามเดิม ดำเนินเรื่องราวไปแบบอยู่กับร่องกับรอยแทบจะทุกรายละเอียด แต่นับว่าโชคดีที่หนังเรื่องนี้ได้ดีเพราะเคมีและความเป็นมืออาชีพของนักแสดงนำล้วน ๆ
Ticket to Paradise เป็นหนังรักที่มีกลิ่นอายให้ความรู้สึกเหมือนกับหนังรอมคอมชื่อดังที่เพิ่งจะฮิตเมื่อไม่กี่ปีก่อน อย่าง Crazy Rich Asian เพราะว่าหนังใส่วัฒนธรรมความเป็นเอเชียเข้ามาเป็นส่วนประกอบ โทนและกลิ่นอายของหนังจึงออกมาในสไตล์นั้น แต่ค่อนข้างให้ฟีลที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยภาพรวมถือว่าเป็นหนังที่ยังมีจังหวะที่ลงตัวดี
การได้นั่งดูเคมีระหว่าง จอร์จ คลูนีย์ กับ จูเลีย โรเบิร์ตส์ ที่ฟุ้งกระจายไปตลอดทั้งเรื่องนั้น ถือว่าเป็นกำไรของคนดูโดยแท้ เพราะทั้งคู่ในหนังรักต่างปล่อยพลังและเคมีที่ดีออกมาตลอดทั้งเรื่องนี้ ผู้เขียนสารภาพว่าได้แต่นั่งยิ้มเพลิน ๆ ตามการแสดงของทั้งคู่แบบไม่รู้ตัว มันเป็นอารมณ์ที่น่าหลงใหลที่ควรเป็นองค์ประกอบหลักในหนังรักทุกเรื่อง จุดนี้ถือว่าหนังเรื่องนี้สอบผ่าน
ตามที่กล่าวไปแล้วว่า Ticket to Paradise เป็นหนังสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ บทหนังค่อนข้างเชยและไม่ค่อยมีมิติอะไรให้รู้สึกเอ็นจอยเท่าไหร่ แต่กระนั้นก็ยังคงเป็นหนังรักที่ดูได้เพลิน ๆ ยิ้มปริ่มตามท้องเรื่องได้อย่างอิ่มเอมใจ ไม่ต้องหาความสมเหตุสมผลใด ๆ กับหนังเรื่องนี้ แค่มีดูเคมีฟิน ๆ ของ จอร์จ กับ จูเลีย เพียงแค่นี้ นี่ก็ว่าเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จและทำให้เรารู้สึกแฮปปี้ได้ตลอดทั้งวันแล้ว
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Ticket to Paradise ตั๋วรักสู่พาราไดซ์
- ประเภท: โรแมนติก / ตลก
- ผู้กำกับ: โอล พาร์คเกอร์
- นำแสดงโดย: จอร์จ คูลนีย์, จูเลีย โรเบิร์ตส์
- ความยาว: 104 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 6 ตุลาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Ticket to Paradise ตั๋วรักสู่พาราไดซ์
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
————————————-