The Replacement Killers (★★)

The Replacement Killers (★★) หนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกของเฮียโจวเหวินฟะที่ยังคงเป็นแนว Action ไล่ยิงกันตามสไตล์ เฮียโจวของเราก็รับบท จอห์น ลี นักฆ่ามือหนึ่งของเฮียเว่ย (Kenneth Tsang) ที่กลับปฏิเสธในการทำงานชิ้นสุดท้ายที่เฮียเว่ยมอบให้ เลยโดนสั่งเก็บครับ เก็บจอห์นไม่พอ แต่ยังสั่งเก็บครอบครัวของจอห์นที่เมืองจีนด้วย ทำให้เขาต้องรีบทำพาสปอร์ตปลอมเพื่อจะได้กลับไปช่วยครอบครัว นั่นทำให้เขาได้รู้จักกับ เม็ก โคเบิร์น (Mira Sorvino) สาวแสบนักปลอมแปลงเอกสาร และทั้งคู่ก็ต้องฝ่าดงกระสุนเอาตัวรอดจากองค์กรนักฆ่าของเฮียเว่ย

หนังถ่ายทำได้ฉับไว ลีลาก็ใช้ได้ครับ เรื่องมุมกล้องจัดว่าโดดเด่นเอาเรื่องอยู่ ส่วนการแสดงของเฮียโจวก็ยังยอดเยี่ยมไม่มีตก โดยเฉพาะลีลาถือปืนสองมือ กับการสะบัดเสื้อพลิ้วไหว เป็นความเท่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ที่หาใครเสมอเหมือนได้ยาก อีกทั้งหน้าตา แววตาของเฮียเขาก็บ่งบอกอารมณ์ได้อย่างดี เอาแค่ฉากที่เฮียเขาเล็งปืนไปที่เป้าหมายที่เฮียเว่ยสั่งให้ฆ่านั่น ดูออกเลยครับว่าเขาสับสนและไม่ต้องการจะทำงานชิ้นนี้จริงๆ อันนี้พูดได้เต็มปากครับว่าเฮียโจวคือของดีของหนังเรื่องนี้จริงๆ

ในขณะที่ตัวบทนั้นยังไม่แน่นเท่าที่ควรครับ เหมือนกับทีมงานเขียนเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดเหตุการณ์ยิงกันเท่านั้นเองครับ แค่ไล่ยิงไปเรื่อยๆ เนื้อหาก็ไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใด สิ่งที่หนังพอมีให้ก็คือฉากกระหน่ำไล่ยิงแบบไม่เปลืองกระสุน ว่าง่ายๆ คือดูเอามันส์ได้นั่นเองครับ

งานชิ้นนี้กะขายเฮียโจวแบบเต็มๆ ครับ ลีลาการยิงปืนที่เท่ห์สุดขั้ว นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงนัก Sorvino ก็สวยและเซ็กซี่มาก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น ทั้งๆ ที่เธอก็เป็นดาราจำพวกขายฝีมือคนหนึ่งนะครับ ก็น่าเสียดายอยู่ ในขณะที่ตัววายร้ายก็ถือว่าคัดที่เล่นเก่งๆ มาทั้งนั้นนะครับ ไม่ว่าจะ Jürgen Prochnow ในบท ไมเคิล โคเก้น และ Tsang ที่แสดงเป็นเฮียเว่ย รายหลังนี่เป็นดารามืออาชีพของฮ่องกงที่คอหนังจีนต้องคุ้นหน้าแน่นอน แค่มาดก็กินขาด แต่บทมัยังไม่ลึกพอครับ แทนที่หนังจะลึกก็เลยเป็นไปแค่ผิวๆ เท่านั้น ไม่เหมือนพวก โหด เลว ดี (A Better Tomorrow) หรือ โหดตัดโหด (The Killer) ที่มันมีการลงลึกไปที่ตัวละครมากกว่านี้ ซึ่งนั่นจะทำให้เราอินมากขึ้นและความลุ้นอะไรมันก็จะทวีเพิ่มขึ้นด้วย

นี่ก็เป็นงานแรกของผู้กำกับ Antoine Fuqua ผู้กำกับที่เติบโตมาจากสายมิวสิควีดีโอ ซึ่งงานภาพนั้นนับว่าน่าจดจำครับ ปุ๊บปั๊บฉบับไวเอามันส์ได้สบาย แต่ด้านเนื้อหายังค่อนข้างอ่อน กระนั้นสำหรับผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะโทษ Fuqua คนเดียวก็ไม่ได้ครับ เพราะกล่าวกันว่าในตอนถ่ายทำนั้น ทางสตูดิโอยังไม่เชื่อมือของ Fuqua สักเท่าไร เลยตามประกบคุมแจจน Fuqua เองรู้สึกเครียด ไม่เป็นอิสระ และไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก แต่ยังดีครับที่เฮียโจวเหวินฟะของเราคอยอยู่เคียงข้าง Fuqua และบอกกับสตูดิโอให้เชื่อในวิสัยทัศน์ของผู้กำกับหนุ่มคนนี้

แต่จนแล้วจนรอดทางสตูดิโอก็ออกฤทธิ์อีกจนได้ เมื่อได้เห็นหนังฉบับแรกที่ Fuqua ตัดออกมา ซึ่งฉบับนั้นหนังจะมีพื้นที่ของดราม่าเยอะพอสมควรครับ มีการเล่าปูมหลังและแรงจูงใจของตัวละคร อีกทั้งมีพล็อตรองโรแมนติกระหว่างพระเอก-นางเอกด้วย แต่รอบฉายทดลองคนดูก็เหมือนจะติว่าแอ็กชันน้อยไป เท่านั้นล่ะครับสตูดิโอเลยสั่งให้ Richard Francis-Bruce มือตัดต่อที่เคยมีผลงานในหนังอย่าง The Rock และ Air Force One ให้มาตัดหนังใหม่ให้กระชับขึ้น หรือพูดให้ชัดก็คือเอาพื้นที่ดราม่าและพื้นที่โรแมนติกออกไปให้เยอะที่สุด เหลือไว้แต่แอ็กชันกระหน่ำมันส์เป็นหลัก ผลที่ได้ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เราเห็นนี่แหละครับ

Fuqua เองเคยออกมาบอกว่าประสบการณ์ทำหนังเรื่องนี้ของเขาถือว่าหวานปนขมครับ ที่ว่าหวานก็เพราะเขาได้ร่วมงานกับชายที่เขามองว่าเท่ห์ที่สุดในโลกอย่างโจวเหวินฟะ และ Sorvino ก็เป็นนักแสดงที่เจ๋งมากเช่นกัน แต่ที่ไม่สนุกก็คือการต้องมางัดข้อกับสตูดิโออีกทั้งเรื่องในทางธุรกิจซึ่งบางทีก็ค้านกับวิสัยทัศน์ในการทำหนัง แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้นครับ

ตัวหนังทำเงินไปราว $19 ล้าน จากทุนสร้างประมาณ $30 ล้าน แน่นอนว่าหนังไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ครับ

เอาเป็นว่าหากอยากดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกก็ต้องทำใจมองข้ามเรื่องบทไปครับ แล้วก็สนุกสนานกับฉากแอ็กชันกระสุนปลิวว่อนที่หนังเสิร์ฟใส่ให้คนดูตลอดเรื่องเป็นพอ