Light of My Life – คือพ่อ…คือลูก

Light of my Life – คือพ่อ…คือลูก
— 4.4/10 —
พล็อตน่าสนุก แต่หนังจริงไม่สนุก เนิบๆ ช้าๆ ไม่น่าติดตามเท่าไหร่
ไม่มีความลุ้นระทึก หนีเอาชีวิตรอดอะไรขนาดนั้น (มีก็น้อยมาก)
มันคือหนังที่จะพาเราไปดูสองพ่อลูกคุยกัน 
และก็ไม่ได้มีฉากแสดงความดราม่าหรือรักลูกให้เราอินเลย

Light of my Life คือผลงานการกำกับ เขียนบท ของ Casey Affleck น้องของ Ben Allfeck ที่เจ้าตัวแสดงนำด้วยอีกต่างหาก แน่นอน่วาชื่อชั้นของ Casey ย่อมด้อยกว่าผู้พี่ที่มักแสดงหนังใหญ่ๆ เสียมากกว่า แต่ฝีมือการแสดงของเขาไม่ได้ด้อยกว่าแต่อย่างใด (เผลอๆ เหนือกว่าด้วยซ้ำไป) ซึ่งเขาได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วกับเรื่อง Machester by the Sea ที่เขาคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครอง 

และถ้าดูจากพล็อตเรื่องของเรื่องนี้นับว่ามีวัตถุดิบที่น่าสนใจมาก น่าสนุกมากจริงๆ กับเรื่องราวของสองพ่อลูก(สาว) ที่ต้องฝ่าวิกฤติเผชิญโลกที่โดนไวรัสระบาดคร่าชีวิตเพศหญิงไปสิ้นโลกและลูกสาวคนนั้นคือผู้หญิงคนเดียวในโลกที่หลงเหลืออยู่ ผู้เป็นพ่อต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกสาว ภายใต้อันตรายต่างๆ จากคนรอบข้าง พล็อตมันน่าสนุกและน่ามีอะไรให้เล่นลุ้น ตื่นเต้น ระทึกได้เยอะแยะเลยนะ แต่หนังมันไม่ใช่แบบนั้น

หนังเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยบทสนทนาของสองพ่อลูก ที่จะเล่าเรื่องอดีตบ้าง เล่านิทานบ้าง ที่ไม่ได้มีฉากไหนซึ้งจนน้ำตาไหล และก็ไม่ได้มีฉากไหนที่แสดงให้เห็นความรักอันล้นเปี่ยมของสองพ่อลูกเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำหนังยังดำเนินเรื่องเรียบๆ ง่ายๆ เนิบๆ และช้ามาก คือเอาจริงๆ ไม่รู้เลยว่าจะต้องจดจ่ออยู่กับอะไร มันไม่สามารถดึงคนดูให้สนใจตัวหนังได้เลย คือถ้ารวบมาเป็นหนังสั้นมันน่าจะโอเคกว่านี้ เอาจริงๆ มันก็มีแหละฉากระทึก แต่น่าจะสัก 5% ของเรื่องก็ว่าได้มั้ง ใครนอนไม่พอหรือไปดูหนังเรื่องนี้ตอนดึกๆ มีสิทธิหลับแน่ๆ 

อย่างน้อยก็ยังมีการแสดงของสองพ่อลูกที่พอทำได้ดีบ้าง (ถึงแม้จะไม่ได้แสดงถึงความรักของพ่อลูกขนาดนั้นก็เถอะ) แต่ทั้งคู่แสดงได้ธรรมชาติดีทั้งตัว Casey Affleck และ Anna Pniowsky และอีกส่วนที่รู้สึกว่าดีคือบรรยากาศ โทนภาพ ที่ดูหม่นๆ เหงาๆ เหมาะกับหนังเรื่องนี้ดี แต่ดูแล้วก็ชวนง่วงเหมือนกันนะ 555 แต่เอาเป็นว่าสวยละกัน

สรุปแล้ว Light of My Life เป็นหนังที่ค่อนข้างน่าเบื่อ เนิบ ช้า ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น ไม่ลุ้น ไม่ระทึก ไม่รู้จะจับประเด็นอะไรเลย ไม่มีเป้าหมาย เอาเป็นว่าแทบจะไม่มีอะไรให้น่าติดตามเลยจริงๆ มันเรื่อยๆ แบบเรื่อยๆ จนเกินไป