Cult of Chucky (2017)

22196091_1787228454641281_3235312484587778500_n

การกลับมาหนที่ 7 ของฆาตกรผีแค้นฝังหุ่นนามว่าชัคกี้ครับ ก็บอกตรงๆ ครับว่ารอดูอยู่เหมือนกัน เพราะภาคที่แล้ว (Curse of Chucky) หนังสามารถฟื้นฟูศรัทธาให้ผมขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็มีเผื่อในไว้ตามระเบียบครับ

หนนี้เล่าเรื่อง 4 ปีต่อมาหลังเหตุการณ์ในภาค 6 โดยมี แอนดี้ (Alex Vincent) ตัวเอกจาก 3 ภาคแรกกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตอนแรกผมก็นึกว่าบทเขาจะเยอะน่ะนะครับ แต่ไปๆ มาๆ มันไม่ใช่แบบนี้แฮะ

หนังมาเน้นที่เรื่องของนิก้า (Fiona Dourif) ผู้รอดชีวิตจากภาคที่แล้วเป็นหลักครับ หลังจากรอดมาเธอก็ต้องอยู่ในโรงพยาบาลโดยตลอด และแล้วชัคกี้ก็ตามไปหาเธอจนเจอ จากนั้นก็ตามสูตรครับ มันลงมือฆ่าคนในโรงพยาบาลทีละคนๆ

หลักๆ ก็เป็นเรื่องชัคกี้ไปป่วนประสาทของนิก้าน่ะครับ แล้วก็มีแอนดี้มาในบทสมทบกิตติมศักดิ์อะไรประมาณนั้น แต่ยอมรับเลยว่าจริงๆ ผมอยากให้แอนดี้มาเล่นนำมากกว่า หรือไม่จะให้ตีคู่กับนิก้าก็ได้ ก็แอบเสียดายเล็กๆ ครับ

ถ้าถามว่าหนังสนุกไหม หนนี้มันก็เข้าอีหรอบหนังไล่ฆ่าแบบเดิมๆ ครับ คนในโรงพยาบาลค่อยๆ ตายกันไป แต่ก็น่าขำอีกเหมือนกันที่ไม่มีใครคิดจะเอะใจอะไรเลยว่ามันเกิดเรื่องสยองขึ้นแล้วนะ ที่คนตายนี่มันไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่นแล้วนะ… แต่ก็แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ (นอกจากตัวเอก) ก็ไม่เอะใจอะไร

พอหนังมามุกนี้ก็รู้สึกว่ามันเดิมๆ เหมือนกันครับ จริงๆ ภาคก่อนก็คล้ายๆ กัน มีตัวละครงี่เง่าเหมือนกัน มีการตายแบบเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่ที่ต่างกันก็คือมันมีจุดหักเห มีจุดเชื่อมที่น่าสนใจมากๆ จนทำให้ภาคที่แล้วพลิกจากหนังกลางๆ มาเป็นภาคต่อที่เข้าท่าของหนังชุดนี้ได้

ในขณะที่ภาคนี้ พอมาทางเดิมและไม่ได้มีอะไรที่สดใหม่เจ๋งพอ ดีกรีความน่าสนใจมันเลยลดลงไปบ้างครับ แต่ถ้าถามว่าแย่ไหม ผมก็ว่าไม่แย่นะ ใครชอบหนังชุดนี้ก็น่าจะยังดูได้เพลินๆ เพราะอย่างน้อยการฆ่าของชัคกี้ก็โหดไม่น้อยเหมือนกัน

และเหมือนหนังภาคนี้จงใจสลับธีมกับภาคก่อนที่คราวนั้นฉากจะเน้นความมืดทะมึน ส่วนภาคนี้มักจะมาโทนขาวๆ สว่างๆ และเหตุการณ์ก็มาเกิดในช่วงหิมะตกด้วย ก็ดูเป็นการสลับโทนที่น่าสนใจครับ (แต่ไม่ยักกะมีการใช้โทนให้เกิดประโยชน์เท่าไร)

ภาคนี้หนังมาพร้อมมุกใหม่ๆ อย่างเหตุผลว่าทำไมตอนต้นเราก็เห็นอยู่ว่าชัคกี้มันอยู่กับแอนดี้ แล้วอีท่าไหนมันถึงโผล่มาอาละวาดที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งเป็นมุกใหม่ เป็นการอัพเลเวลให้ความร้ายของชัคกี้ได้ครับ แต่ถ้าพูดถึงโลกหนังสยองแล้ว มุกนี้ก็ไม่ได้ใหม่อะไรขนาดนั้น (ลึกๆ ออกจะรู้สึกว่ามันออกแนวแถด้วย 555)

ผมดูภาคนี้ด้วยอารมณ์เหมือนเจอเพื่อนเก่าแบบนานๆ ทีน่ะครับ แน่นอนว่ามันไม่สนุกลงตัวเท่าภาคแรกอีกแล้ว ถ้าให้จัดเรียงลำดับความชอบของหนังชุดนี้ ภาคแรกยังมาวินครับ แล้วถัดมาก็ภาค 2 (ที่ผมยังจำฉากไล่ล่ากันในโรงงานของเล่นได้ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นดี)

Untitle03412

ภาค 3 จริงๆ ก็โอเคครับ เพียงแค่มันย่ำทางเดิมมากไปหน่อย ส่วนภาค 4 พยายามฉีกกรอบ ซึ่งก็มีทั้งส่วนที่โอและไม่โอผสมกัน ครั้นมาภาค 5 นี่ออกทะเลไปกันใหญ่ครับ ชอบน้อยสุด แม้จะฮากับไอเดียหลายๆ อย่างก็ตาม ส่วนภาค 6 นี่น่าจะชอบน้องๆ ภาค 2 ครับ (ชอบตรงจุดเชื่อมนี่แหละ)

ส่วนภาคนี้ก็กลางๆ ครับ ชอบน้อยกว่าภาค 6 หากประมาณก็น่าจะชอบพอๆ กับภาค 3 แต่ผมมองว่าภาคนี้่เป็นแค่ตอนคั่นเวลามากกว่า ถ้ามีภาคหน้าล่ะก็ น่าจะมีอะไรที่เด็ดขึ้น นี่คือหมายถึงกรณีที่ Don Mancini แกคิดจะต่อยอดหรือปรุงให้มันเด็ดขึ้นน่ะนะครับ มันมีอะไรให้เล่นอีกเพียบเลย

… ถ้าเขียนบทดีๆ นี่สามารถก่อศึกให้ตัวละครสู้กับพวกชัคกี้แบบมันส์ๆ ให้หนังภาคต่อไปได้เลยครับ ลองว่าทิ้งเชื้อไว้ขนาดนี้แล้ว อ้อ และอย่าลืมดู End Credits ครับ มีอะไรให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอีกครับ ^_^

ดาวครึ่งครับ

Star12

(5/10)