อีกนิดเดียวก็จะถึงแชมป์ที่ต้องการแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าในเกมเดือดท่ามกลางหิมะโดยมี ริยาด มาห์เรซ ยิงเบิ้ล และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หมดโอกาสคัมแบ็คเพราะมาเหลือ 10 คนหลัง อังเคล ดิ มาเรีย โดนไล่ออกทำให้ เรือใบสีฟ้า เอาชนะ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรก
แรก
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
แมนฯ ซิตี้ 2 – 0 เปแอสเช
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯซิตี้ ชนะมาก่อนในนัดแรก 2-1 กลับมาเล่นในบ้านนัดสองส่งตัวหลักลงครบนำโดย เควิน เดอ บรอยน์ และ ริยาด มาห์เรซ ส่วน เปแอสเช ให้ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เพิ่งหายเจ็บเป็นสำรอง หน้าเป้าส่ง เมาโร อีการ์ดี้ ลุยก่อน
ในนาทีที่ 7 ผู้ตัดสินเป่าให้ ปารีส ได้จุดโทษหลังมองว่าบอลโดนแขน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แต่ได้รับสัญญาณวีเออาร์และวิ่งมาเช็กหน้าจอด้วยตัวเองก่อนเปลี่ยนคำตัดสินไม่เป็นจุดโทษเพราะบอลตกบริเวณหัวไหล่ แมนฯ ซิตี้ จึงรอดตัวไป
ในนาทีที่ 11 หลังจากไม่ได้จุดโทษ เปแอสเช กลับเป็นฝ่ายโดนยิงซะเอง เอแดร์ซอน เปิดบอลยาวขึ้นหน้าให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนจ่ายบอลไปหน้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงติดบล็อกจังหวะแรก บอลมาเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ วิ่งเข้ายิงมุมแคบด้วยขวาส่งบอลลอดขา เกย์ลอร์ นาวาส เข้าประตูไปขึ้นนำเป็น 1-0
ในนาทีที่ 16 เปแอสเช เกือบตีเสมอได้ จากจังหวะเตะมุมที่ อังเคล ดิ มาเรีย เปิดบอลให้ มาร์กินโญส ขึ้นโขกได้เหนือผู้เล่นเจ้าถิ่น แต่บอลย้อยชนคานออกไป
ในนาทีที่ 36 ทีมเยือนลุยต่อหวังตีเสมอให้ได้ ได้ลุ้นจากเกมรุกฝั่งซ้ายที่บอลมาถึง อันเดร เอร์เรร่า ได้ยิงด้วยซ้ายตรงเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ว่าเฉียดคานออกหลังไปนิดเดียว
เข้าช่วงทดเจ็บ เรือใบสีฟ้าได้เสียวเช่นกัน มาห์เรซ ได้บอลทางขวาก่อนสับขาหลอกแล้วยิงยัดเสาแรก แต่ติดเซฟของ เกย์ลอร์ นาวาส บอลจังหวะสองเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา เก็บได้ก่อนยิงแฉลบข้ามคานออกหลังไป
ในนาทีที่ 54 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นเมื่อ เดอ บรอยน์ ไหลบอลให้ โฟเด้น หลุดเดี่ยวไปยิงติดเซฟของ นาวาส ที่ออกมาบล็อกได้เยี่่ยม อย่างไรก็ตามจังหวะนี้ โฟเด้น ถูกจับล้ำหน้าอยู่ดี
ในนาทีที่ 56 ทีมเยือนตอบโต้คืน เนย์มาร์ ได้ลุยเข้าเขตโทษก่อนเลี้ยงบอลรอจังหวะแล้วยิงด้วยขวาเน้นแต่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็กซ้ายซิตี้บล็อกเอาไว้ได้หวุดหวิด
ในนาทีที่ 63 แมนฯ ซิตี้ ขยับขึ้นนำ 2-0 จากการโต้กลับ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลออกซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลเข้ากลางเลยไปเสาไกล ริยาด มาห์เรซ วิ่งมายิงจ่อๆ ด้วยซ้ายเข้าประตูไป เกย์ลอร์ นาวาส สุดที่จะป้องกันได้
ในนาทีที่ 69 สถานการณ์ของ เปแอสเช เลวร้ายลงเมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ใบแดงไล่ออกหลังเจตนาย่ำเท้าใส่ แฟร์นันดินโญ่ ที่ข้างสนาม
ในนาทีที่ 77 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้อีกลูกที่ 3 จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น เลี้ยงบอลจี้เข้าใส่ เพรสแนล คิมเพมเบ้ ก่อนยิงด้วยซ้ายระยะไกล บอลพุ่งผ่านมือ นาวาส ได้แล้วแต่ว่าชนเสาอย่างน่าเสียดาย
ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ ปิดเกมได้สบายพร้อมทยอยถอดตัวหลักอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ฟิล โฟเด้น ออกไปพัก และมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซิส และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงเล่น
จากนั้นจบเกม แมนฯ ซิต้ ย้ำแค้นเอาชนะ เปแอสเช ที่เหลือ 10 คนไปได้ 2-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 4-1 รอพบผู้ชนะระหว่าง เชลซี กับ เรอัล มาดริด ที่จะเตะนัดสองในวันพุธนี้
“ข่าวสารวงการฟุตบอลอัพเดทใหม่ล่าสุด ผลบอลสดทุกวัน บทความอัพเดทจาก Ufabet เว็บพนันออนไลน์ “