5 ประเด็น แมนฯยู พ่าย บียาร์เรอัล ชวดแชมป์ยูโรปา ลีก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพบกับฤดูกาลแห่งคำว่า “พระรอง” อย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับ บียาร์เรอัล ในการดวลจุดโทษ 11-10 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 1-1 ชวดแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ไปอย่างน่าเสียดาย

ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ยังถือเป็นเรื่องที่สุดแสนเจ็บปวดสำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ไม่สามารถนำแชมป์ใบแรกของเขาในฐานะกุนซือ “ผีแดง” กลับไปตั้งตระหง่านที่ตู้โชว์ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

1.คาวานี่ คู่ควรอยู่ช่วยแมนยูล่าแชมป์


เอดินสัน คาวานี่ เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างน้อยอีก 1 ฤดูกาล เพราะผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาแบบนี้ บอกได้เลยว่ามีประโยชน์กับทัพ “ผีแดง” ในซีซั่นหน้าอย่างมาก ด้วยวัยเข้าหลักสามแต่สภาพร่างกายยังคงแข็งแกร่ง สามารถวิ่งหาพื้นที่ว่างเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ดี และยังใช้ประสบการณ์ในการกดดันเกมรับ บียาร์เรอัล ได้ตลอดจะเห็นได้ว่าเวลาที่ คาวานี่ ได้บอลแข้ง บียาร์เรอัล มักจะเกิดอาการระส่ำระส่ายเลยทีเดียว ประตูตีเสมอ แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณการเป็นหน้าเป้าของ คาวานี่ ด้วยสายตาที่เฉียบคม และความว่องไวในการตามเก็บบอลจังหวะสอง ถือเป็นสิ่งที่ หน้าเป้า ของ แมนฯยู ชุดนี้ไม่มีเลย

2.มีปัญหากับลูกตั้งเตะเหมือนเดิม


การที่ขาด แม็กไกวร์ เป็นเรื่องเสียหายมากเพราะปกติเวลาที่มีเขายืนเซนเตอร์แบ็ก ทีมก็มีปัญหาเรื่องลูกตั้งเตะ ยิ่งไม่มีเขาอยู่ในทีมปัญหานี้ยิ่งหนักหนาสาหัสจริงๆ การรับมือกับลูกเซตพีซของ แมนฯยู ในฤดูกาลนี้ถือว่าย่ำแย่มากๆและนั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยที่ “เร้ด เดวิลส์” ต้องเสียประตูจากการโดนเล่นงานด้วยลูกฟรีคิกของ บียาร์เรอัล แท็กติกของ อูไน เอเมรี่ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเน้นตั้งรับและรอหาโอกาสจากลูกตั้งเตะ ซึ่งก็มาประสบผลสำเร็จ เพราะจังหวะที่ ดานี่ ปาเรโฆ่ เปิดบอลโค้งเข้าไปแทบไม่อันตรายเลย แต่เป็นการซ้อมมาอย่างดีเพราะ เคราร์ด โมเรโน่ วิ่งหนีตัวประกบก่อนขึ้นโหม่งเข้าประตูไปง่ายๆ

3.เอเมรี่ ประกาศศักดาความเป็นเจ้าพ่อยูโรปา


ฟุตบอลถ้วยใบเล็กยุโรปหลายคนอาจจะมองข้ามแต่สำหรับ อูไน เอเมรี่ มันคือโทรฟี่ที่มีความสำคัญและท้าทายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันคือใบเบิกทางสู่การเข้าไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ยอมรับว่า บียาร์เรอัล ชุดนี้มีขุมกำลังและคุณภาพทีมสู้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้จริงๆแต่สิ่งที่พวกเขามีเหนือกว่า “ผีแดง” ก็คือมันสมองของ เอเมรี่ ไม่ใช่ โซลชา ไม่เก่งเพียงแต่ กุนซือชาวสแปนิช ผ่านประสบการณ์โชกโชนในเกมนัดชิงแบบนี้มาเยอะมาก จะเห็นได้ว่าแท็กติกของ เอเมรี่ เน้นการประคองเกม และใช้ทีมเวิร์กในการสู้กับ แมนฯ ยู โดยพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นรองเรื่องความสามารถเฉพาะตัวและความเร็ว แต่การตัดผู้เล่นสำคัญอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ปอล ป็อกบา ไม่ให้ทำเกมได้สะดวก ทำให้เกมบุกของ “เร้ด เดวิลส์” ตื้นไปเลย แบ็คทั้งสองฝั่งไม่เปิดโอกาสให้ กรีนวู้ด กับ แรชฟอร์ด ได้โชว์ความเร็วที่เป็นจุดเด่นของพวกเขา โดยเฉพาะ “หนูแรช” บอกเลยว่าแทบหายไปจากเกม ความเร็วของเขาเล่นงานเกมรับ “เยลโล่ ซับมารีน” ไม่ได้เลย

4.อัลบิโอล คีย์แมนสำคัญบียาร์เรอัล


ความสำเร็จของ บียาร์เรอัล มาจากการเล่นเป็นทีมเวิร์ก และช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปั้นเกมรุกที่ถนัดได้ แต่หนึ่งในคีย์แมนที่ทำให้เกมของพวกเขาเหนียวแน่นก็คือ ราอูล อัลบิโอล ปราการหลังมากประสบการณ์ ราอูล อัลบิโอล วัย 35 ปี ผ่านประสบการณ์ลูกหนังมาอย่างโชกโชนทั้งกับ “ไอ้ค้างคาว” บาเลนเซีย, “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด และ นาโปลี เป็นต้น ฉะนั้นเรื่องความนิ่ง และการอ่านเกมของเขาไม่เป็นสองรองใคร อัลบิโอล มีสภาพร่างกายที่ฟิตมากๆ เขาสามารถสู้กับแนวรุกรุ่นกระทงอย่าง แรชฟอร์ด กับ กรีนวู้ด ได้อย่างแข็งแกร่ง การเป็นผู้นำ และการอ่านเกมที่สุดยอดทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ไม่สามารถเล่นเกมที่ตัวเองถนัดได้เลย งานนี้ก็คงไม่ต้องแปลกใจที่่แฟนบอล “เยลโล่ ซับมารีน” จะซูฮกความสุดยอดของ อัลบิโอล เพราะนี่คือหนึ่งในผู้เล่นที่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรอย่างแท้จริง

5.โซลชา ยังต้องรอความสำเร็จกับแมนยูต่อไป


โซลชา ยังคงต้องรอคอยการนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์รายการแรกในฐานะผู้จัดการทีม ต่อไป เพราะนี่เป็นโอกาสทองของเขาที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเอง แต่ท้ายที่สุดก็ยังคงเป็นพระรองอยู่ดี น้าลูกอม ประสบความสำเร็จมากมายสมัยที่เป็นนักเตะให้ ปีศาจแดง โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญคือการเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ซัดประตูชัยชนะ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และช่วยให้ทีมเขียนประวัติศาสตร์ในฐานะสโมสรที่คว้า ทริปเบิ้ลแชมป์ ได้อย่างยิ่งใหญ่ในปี 1999 การนำทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยมี เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรมาจารย์ที่สอนสั่งแท็กติกในการวางหมาก นั่งอยู่ในสนามสตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค เพื่อเป็นสักขีพยานในการได้เห็นลูกศิษย์ก้นกุฏิประสบความสำเร็จ มันเป็นอะไรที่ซาบซึ้งสุดๆสำหรับ โซลชา และบรรดาแฟนผีโปรเจกต์ แต่ฉากที่แสนสุขสันต์เคล้าน้ำตามันไม่เกิดขึ้น แต่กลายเป็นภาพที่สุดเศร้าน้ำตารินแทน และความสำเร็จในฐานะกุนซือ ผีแดง ของ โซลชา ยังคงเป็นเส้นขนานต่อไป เพราะการได้รองแชมป์พรีเมียร์ลีก กับรองแชมป์ยูโรปาลีก ฤดูกาลหน้าหาก โซลชา มีการเสริมทัพที่แข็งแกร่ง และได้ตัวผู้เล่นที่เขาต้องการทั้งเซนเตอร์แบ็ก ปีก และหน้าเป้า ผสมกับการวางแท็กติกที่แยบโยลมากยิ่งขึ้น งานนี้น้าลูกอม อาจจะได้เห็นโทรฟี่สีเงินมันวาววิบวับอยู่ในมือของเขาก็ได้

“ข่าวสารวงการฟุตบอลอัพเดทใหม่ล่าสุด ผลบอลสดทุกวัน บทความอัพเดทจาก Ufabet เว็บพนันออนไลน์