ปีแรกออกมาแล้วคนดูก็ถึงแก่ความมันส์ครับ เพราะซีรี่ส์นี้ทั้งเข้มข้นและแปลกใหม่เร้าใจ ด้วยการเดินเรื่องแบบ “เวลาจริง” เหตุการณ์ตามเวลาใน 1 วัน ซึ่งมีให้ลุ้นได้ทุกตอนครับ รวมไปถึงลีลาหักมุมและความตื่นเต้นที่ใส่ลงมาเป็นระยะๆ (โดยเฉพาะตอนที่เวลากำลังจะเป็นเลข “.00 น.”)
ส่วนปี 2 นี้ ก็เป็นเรื่องราวหลังจากปีแรก หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารเดวิด ปาล์มเมอร์ (Dennis Haysbert) ซึ่งตอนนี้ได้เป็นประธานาธิบดีไปแล้ว และท่านก็ได้รับคำเตือนว่า มีการลักลอบเอานิวเคลียร์เข้าลอสแอนเจลิส และมันจะระเบิดภายใน 24 ชม.!
จากการประเมินความเสียหาย คนต้องตายนับล้านๆ แน่นอนหากมันเกิดตูมขึ้นมา ปธน. เลยมีคำสั่งให้ตาม แจ๊ค บาวเออร์ (Kiefer Sutherland) พระเอกของเราให้กลับมาตามล่าหาระเบิดให้ทันเวลา แล้วก็แน่ล่ะครับว่าเรื่องราวมันไม่ได้มีแค่ตามหาระเบิดนิวเคลียร์เพียงอย่างเดียว มีพล็อตรองอีกเยอะให้เราลุ้นและติดตามไปพร้อมๆ กัน
ปี 2 นี่แค่ตอนแรกความเข้มข้นก็เริ่มแล้วล่ะ ซึ่งงวดนี้เข้มสุดๆ ทั้งตัวละคร การเดินเรื่องและเหตุการณ์ แค่ตอนที่สามเรื่องราวก็ชักจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก พูดง่ายๆ แค่จบตอนแรกก็ทนดูตอนต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะครับ มันมันส์และเข้าท่ามากในการสานต่อปมต่างๆ ของเรื่องราว
เหตุการณ์ปีนี้ ใหญ่กว่าคราวก่อนรวมไปถึงจังหวะที่ค่อนข้างคล่องแคล่วกว่าปีก่อน (แต่ความกดดันแบบหม่นมืดจะน้อยกว่า) เดินเรื่องไวและน่าสนใจ แล้วเหล่าดาราปีนี้ มีดีๆ เพียบ ตั้งแต่สาวๆ ที่สวยและฝีมือยังเฉียบไม่มีตกอย่าง Tracy Middendrof (แห่ง นิ้วเขมือบภาค 7), Sarah Wynter (คนนี้สวย เป็นผู้ใหญ่แต่สวยเข้มเชิงน่ารักตลอดกาลครับ), Laura Harris (แห่ง The Faculty) แต่ยังไม่พอ นอกจากคนสวยมีฝีมือ ก็ยังมีเหล่านักแสดงมือเก๋าอย่าง Timothy Carhart, Harris Yulin อีกครับ ท่าทางว่าคงเป็นอานิสงฆ์จากปี 1 ที่ดังและดีครับ ดาราน้อยใหญ่เลยมากันเพียบ
ไม่อยากให้พลาดครับ สนุกแน่นอน ใครที่บอกว่าภาคแรกเครียดไปมาดูภาคนี้น่าจะโอเคนะครับ เพราะอารมณ์มันพอดีๆ ออกแนวแอ็คชั่นลุ้นระทึกเต็มตัวมากกว่าจะมาเน้นกดดันแบบช้าๆ อย่างคราวก่อน ด้านความน่าติดตามก็ไม่มีตกและเรื่องราวยังต่อเนื่องจากปีแรกด้วย ยังไงซะ ไปหาปีแรกมาดูก่อนเถอะครับ จะได้ตามเรื่องทัน
คุ้มเวลาในการดูแน่นอนครับ สำหรับคอหนังแอ็คชั่นสืบสวนคุณภาพขนานแท้
สามดาวครับ
(8/10)
