รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมชายของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2023-24 ตกเป็นของ ฟิล โฟเด้น ที่ทำผลงานได้โดดเด่นในซีซั่นที่แล้ว
สำหรับรางวัลนี้นั้นมาจากการโหวตของนักเตะด้วยกันเอง และถือเป็นพัฒนาการที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่องของแข้งวัย 24 ปี เพราะเขาเคยได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ มาแล้วถึง 2 สมัย ประกอบด้วยฤดูกาล 2020-21 กับ 2021-22
แม้ว่าที่ผ่านมาอังกฤษ จะมีนักเตะเก่งๆ หลายคน แต่เชื่อหรือไม่ว่า โฟเด้น เป็นเพียงคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่เคยได้สัมผัสกับทั้งรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมและรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ
คนแรกที่ทำแบบนั้นได้คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โดยเขาเคยได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ประจำฤดูกาล 2000-01 หลังจากซีซั่นนั้น เจอร์ราร์ด ในวัยเพียง 21 ปี ลงเล่นไปถึง 50 นัดในทุกรายการ พร้อมทำได้ 10 ประตู
ซีซั่นนั้น ลิเวอร์พูล จบฤดูกาลในลีกด้วยการเป็นอันดับ 3 และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในรายการฟุตบอลถ้วยอย่างมาก เพราะได้แชมป์ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูฟ่า คัพ โดยที่ เจอร์ราร์ด ทำประตูได้ในนัดชิงดำของ ยูฟ่า คัพ ด้วย ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะ เดปอร์ติโบ อลาเบส 5-4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยกฎโกลเด้นโกล
พอถึงฤดูกาล 2005-06 ลิเวอร์พูล จบฤดูกาลด้วยการเป็นที่ 3 ใน พรีเมียร์ลีก เหมือนกับตอนซีซั่น 2000-01 แต่พวกเขาก็มีทั้งแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ เอฟเอ คัพ ติดมือ
เจอร์ราร์ด ก็เล่นได้ดีจนเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมประจำซีซั่นด้วย ไม่ว่าจะในกรณีที่นับรวมทุกรายการจากการกดไป 23 ประตู หรือเฉพาะในลีกที่ทำไป 10 ลูก ทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ในซีซั่น 2005-06 ด้วยวัย 25 ปี
นักเตะคนที่สอง ที่เคยได้ทั้งรางวัลแข้งดาวรุ่งยอดเยี่ยมกับนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ได้แก่ เวย์น รูนี่ย์ โดยอดีตหัวหอกคนดังได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2004-05 ด้วยการทำได้ 17 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ ทั้งที่นั่นเป็นซีซั่นแรกของเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถมตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งมีอายุแค่ 19 ปีอีกตางหาก แต่น่าเสียดายที่ซีซั่นนั้น แมนยู ไม่มีแชมป์ติดมือเลย
รูนี่ย์ มาได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันในฤดูกาล 2005-06 หลังจากยิงไป 19 ลูก ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นการยิงในลีก 16 ประตู โดยที่หนนี้เขาได้แชมป์ ลีก คัพ ร่วมกับทีมด้วย
ในซีซั่น 2009-10 ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ รูนี่ย์ โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงมากที่สุด เพราะกดไปถึง 34 ประตูจากการลงเล่นในทุกรายการ โดยเป็นการยิงในลีกได้ 26 ลูก ทำให้ถึงแม้ฤดูกาลนั้น แมนยู จะได้แค่แชมป์ ลีก คัพ แต่ผลงานส่วนตัวของ รูนี่ย์ ซึ่งตอนนั้นมีอายุ 24 ปี ก็ถือว่าดีพอที่จะทำให้เขาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ ไปเชยชม
ขอบคุณบทความดีๆ สามารถอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลสดใหม่ทุกวันได้ทาง “Ufabet”