ก่อนนี้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ยืนยันว่า ชั่วโมงนี้ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนเจ๋งกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อีกแล้ว แถมเหนือกว่าสองแข้งเทพแห่งยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกด้วย ซึ่งมันจะจริงอย่างที่ “คาร์ร่า” ว่าเอาไว้หรือเปล่านั้น สถิติที่จะนำมาเสนอนี้ น่าจะช่วยหาคำตอบได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยเป็นสถิติของทั้งสาม (ซาลาห์, เมสซี่ และ โรนัลโด้) ที่นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2020-21 มาจนถึงนัดล่าสุดเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และเอามาแบ่งแยกวัดประสิทธิภาพเป็น 5 หัวข้อ (อ้างอิงจาก The Sun)
- เครื่องจักรผลิตสกอร์
หากพูดถึงการทำประตูล้วนๆ โรนัลโด้ เหนือกว่าเพื่อนเพราะนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลที่แล้ว มาจนถึงเกมล่าสุด เจ้าตัวกดไปทั้งสิ้น 41 ลูก ขณะที่ ซาลาห์ และ เมสซี่ ตามมาติดๆ ที่ 40 และ 39 ลูก ตามลำดับ นอกจากยิงได้มากสุดแล้วซูเปอร์สตาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วัย 36 ปี ยังมีค่าเฉลี่ยการทำประตูสูงถึง 0.80 ลูกต่อเกมอีกด้วย ส่วน ซาลาห์ น้อยกว่าใครที่ 0.67 ลูกต่อเกม ฝั่ง เมสซี่ มีสถิติอยู่ที่ 0.75 ลูกต่อเกม ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า หากพูดถึงเรื่องการทำประตูในกลุ่มสามคนนี้ โรนัลโด้ เป็นเบอร์หนึ่งส่วน ซาลาห์ เป็นรอง เมสซี่ นิดๆหากมองในแง่ของค่าเฉลี่ย - แอสซิสต์
เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมสซี่ โดดเด่นกว่าใคร เพราะนับตั้งแต่เปิดฉากฤดูกาลก่อนมาจนถึงปัจจุบัน ดาวยิง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 34 ปี จัดไปแล้ว 12 แอสซิสต์ ขณะที่ ซาลาห์ ทำได้ 9 แอสซิสต์ ส่วน โรนัลโด้ รั้งท้ายที่ 5 แอสซิสต์ และภาพยิ่งชัดเจน เมื่อคิดแบบค่าเฉลี่ย โดย เมสซี่ ใช้เวลาประมาณ 4 เกม ต่อการมี 1 แอสซิสต์ ส่วน ซาลาห์ ใช้เกือบๆ 7 เกมต่อแอสซิสต์ ขณะที่ โรนัลโด้ ใช้ราว 10 เกม กว่าจะมีแอสซิสต์สักครั้ง - ความมี Impact ต่อการทำประตูของทีม
ถ้านับเอาจำนวนประตูและแอสซิสต์มารวมกัน เมสซี่ มาที่หนึ่ง (51 ลูก) ตามมาด้วย ซาลาห์ (49 ลูก) และ โรนัลโด้ (46 ลูก) แต่หากนำเอาเรื่องจำนวนนาทีที่เล่นอยู่ในสนามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะก็ ซาลาห์ ตกไปอยู่อันดับสุดท้ายทันที เพราะเมื่อเฉลี่ยออกมาแล้ว ซาลาห์ มีการทำประตูหรือแอสซิสต์เกิดขึ้นทุกๆ 101 นาที ขณะที่เบอร์หนึ่งอย่าง เมสซี่ ใช้เวลาแค่ 89 นาทีเท่านั้น สำหรับการมีประตูหรือแอสซิสต์ ส่วน โรนัลโด้ มีตัวเลขอยู่ที่ 92 นาที - ประสิทธิภาพการทำประตู
แม้ทั้งสามหัวข้อที่ผ่านมา ซาลาห์ ไม่เคยเป็นผู้ชนะ แต่หากพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพการจบสกอร์แล้วล่ะก็ เขาเหนือกว่าทั้ง เมสซี่ และ โรนัลโด้ เพราะ ซาลาห์ เปลี่ยนโอกาสยิงทั้งหมด 195 ครั้ง (นับรวมลูกยิงที่ถูกบล็อก) เป็นประตูถึง 40 ลูก คิดได้เป็น 20.5% รองลงมาคือ โรนัลโด้ 17.2% (41 ประตู จากโอกาส 238 ครั้ง) ส่วน เมสซี่ รั้งท้ายที่ 13.7% (39 ประตู จากโอกาส 284 ครั้ง) - การเลี้ยงบอล
เป็นข้อแถมนอกเหนือจากตารางแล้วกัน เพราะทาง The Sun ยัดสถิติตรงนี้มาให้ด้วย จึงอยากนำมาเสนอต่อ โดยทั้งสามถือเป็นนักเตะจอมพลิ้วที่คู่แข่งยากที่จะเอาอยู่ แต่เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะเดาออกแหละว่า ใครเจ๋งสุดในด้านนี้ ใช่แล้ว เมสซี่ มีสถิติลากเลื้อยพาบอลผ่านนักเตะคู่แข่งสำเร็จถึง 63.1% ตามมาด้วย โรนัลโด้ 59.6% ส่วน ซาลาห์ รั้งท้ายที่ 42.4% สรุป เมสซี่ เป็นเบอร์หนึ่งถึง 3 หัวข้อ ส่วน ซาลาห์ กับ โรนัลโด้ ได้เฮอย่างละหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวนั้น จริงๆแล้วมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกว่าปัจจุบัน ซาลาห์ เจ๋งสุดในโลกหรือเปล่าและเหนือกว่า เมสซี่ กับ โรนัลโด้ แล้วหรือยัง เพราะที่สำคัญกว่านั้นและแน่นอนที่สุดคือ ณ เวลานี้ ซาลาห์ เป็นนักเตะที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้จริงๆ
“ข่าวสารวงการฟุตบอลอัพเดทใหม่ล่าสุด ผลบอลสดทุกวัน บทความอัพเดทจาก Ufabet เว็บพนันออนไลน์ “