ฟินสุโค่ย – Fin Sugoi

ฟินสุโค่ย (ธัญวาริณ สุขะพิศิษฐ์ / Thailand / 2014 / A-) E+20 for Enjoy เสียดายที่ดูคล้ายว่า ‘ฟินสุโค่ย’ จะประสบปัญหาคล้ายๆ กันกับ ‘ตุ๊กแกรักแป้งมาก’ ในเรื่องความเข้าใจหน้าหนังผิดๆ ไปของคนที่จะตัดสินใจตีตั๋วมาดู  ด้วยโปสเตอร์และชื่อหนังหนังเรื่องนี้ที่ชวนสยิวให้ตัดสินว่าเป็นหนังเรทเฉพาะกลุ่มของผู้ใหญ่  ซึ่งถึงแม้จะดึงผู้ชมกลุ่มดังกล่าวมาดูได้บ้างแต่ความฟินในความปรารถนามันคนละอย่างกัน  เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ขายเซ็กส์หรือทรวดทรงปทุมถันแต่อย่างใด เป็นหนังที่ดูไหลลื่นที่สุดของ ธัญวาริน สุขะพิศิษฐ์ โดยเฉพาะเมื่อมองในฝั่งหนังกระแสหลักแล้วมันลงตัวกว่า ‘ฮักนะสารคาม’ กับ ‘เธอเขาเราผี’ อยู่มากทั้งจังหวะการดำเนินเรื่องและประเด็นที่ทั้งบทหนัง มุมมองการกำกับ และนักแสดงล้วนแล้วแต่เสริมส่งกันและกันได้ดี และจุดร่วมที่ยังคงเห็นเด่นชัดคือความหลากหลายทางเพศสภาพที่นอกจากจะเสริมอรรถรสความหลากหลายที่ก่อเกิดความวุ่นวายมลายรักในเรื่องแล้วยังนำมาเล่าได้มีชั้นเชิงที่สะท้อนสถานะทางสังคมที่ตัวละครดำรงอยู่ในแบบที่จุดจับขับประเด็นได้หลากรส ซึ่งถึงมันจะเบาหวานน้ำตาลเปรี้ยวไปบ้างแต่ก็ยังพอดีคำให้ย่อยได้ง่ายๆ และอาจจะง่ายตามวิถีทางหนังสนุกจนเรียบแบน คลิเช่ไปหน่อยในหลายฉาก พอเป็นเรื่องราวรักหลายเศร้ามันก็ยากแล้วที่จะหลีกจากหนังที่เคยมีมาได้ซึ่งถ้าให้นับแค่หนังไทยก็มีหนังรักหลายเศร้าที่เป็นที่จดจำของคนทั่วไปอยู่ประมาณนึงแล้ว แต่กับเรื่องนี้สร้างความซับซ้อนมากขึ้นด้วยความหลากหลายทางเพศ เกย์กับทอมจึงกลายเป็นพระเอกที่ช่วยให้ความซ้ำซากมันลดลงแถมยังเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้นหลายเท่าซึ่งทำให้มันเกิดมิติทางความคิดในเรื่องรักเรื่องเพศเรื่องสาธารณะมากมายให้ได้นึกคิดตาม เรื่องราวสถานการณ์ที่ดูเพ้อฝันของ ‘หนูนา'(สายป่าน) วัยรุ่นสาวผู้คลั่งไคล้ ‘มาโกโตะ’ นักร้องญี่ปุ่นวง Trick ชื่อดัง จนวันหนึ่งเธอได้ผ่านการคัดเลือกให้ไปเล่นมิวสิกวิดีโอของมาโกโตะที่ตัวเองฝันอยากใกล้ชิด  ซึ่งแค่เหตุการณ์หลักนี้ก็ไกลตัวเรามากแล้ว  แต่ยังดีที่คนเขียนไม่มองข้ามที่จะหาที่มาที่ไปมาลบความไม่น่าเชื่อและอารมณ์ที่เข้าไม่ถึงได้เนียนกับความสมเหตุสมผลดี  จนเราเริ่มเข้าถึงความหวังที่มาจากความพยายามของตัวละคร  ไม่เหมือนหนังต้นปีอย่าง ‘ฟัดจังโตะ’ ที่แค่ฟลุ๊คชิงโชคฝาชาเขียวได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ให้อารมณ์เพ้อเจ้อมากกว่าเพ้อฝันปกติ แต่ความเพ้อฝันดั้นด้นในเรื่องนี้ก็มีหน้าที่ช่วยขับเน้นธีมเรื่องรักให้เข้าประเด็นที่วางไว้ให้ตัวละครได้เรียนรู้ความจริงชั่วกาลกับความฝันชั่วคราวให้สะท้อนกันและกันได้ดี ความฝันของหนูนาที่จะได้นอนกับมาโกโตะกับความระหองระแหงระหว่าง ‘เสือโคร่ง'(เต๋า-เศรษฐพงษ์) คู่รักในชีวิตจริงที่หนูนาต้องเผชิญมันสะท้อนผลลัพธ์ของการกระทำซึ่งกันและกันอยู่  จนสุดท้ายทำให้คนทั้งสองได้เรียนรู้ใจเขาใจเราด้วยผลสรุปว่าการให้อภัยและลืมมันไปเสียเหมือนสิ่งเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นเป็นวิธีการต่อรอยร้าวขึ้นมาใหม่ที่เร็วและได้ผลดีที่สุด แต่ลึกๆ มันขาดการคำนึงถึงว่าจริงๆ แล้วมันคือความมักง่ายและเห็นแก่ตัวที่ตั้งใจทำ หรือเป็นเพราะกำหนัดตามธรรมชาติของคนๆ หนึ่งที่มีไม่ต่างกับสัตว์เดียรัจฉานเสือสิงห์กระทิงแรดทั่วๆ ไป  แต่ความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมมีศีลธรรมจริยธรรมต่างจากหมูหมากาไก่นั้นถูกมองเป็นเรื่องรอง  ซึ่งถ้าใครที่มีทัศนคติตรงข้ามกับบทสรุปนี้ก็คงจะไม่ชอบหนังไปเลย นอกจากใจเขาใจเราแล้วใจหญิงใจชายระหว่างคู่ของหนูนากับเสือโคร่งก็น่าสนใจดีแต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้ขยายจุดนี้  คือนอกจากที่หนังสรุปว่าใครบอกทีหลังผิดซึ่งเป็นประเด็นในเรื่องของการไว้ใจและการโกหกปิดบังแล้ว  มันยังมีท่าทีที่เข้าข้างผู้หญิง  ทั้งๆ ที่หนูนาตั้งใจนอนกับมาโกโตะเพื่อฟินกับความฝัน แต่เสือโคร่งเมาจนเพ้อคิดว่าหญิงอื่นที่นอนด้วยเป็นหนูนาเพราะความพลั้งเผลอ  ยังดีที่หนังยังสมดุลด้วยความสัมพันธ์ของ ‘ไก่โต้ง'(กาย-นวพล) กับ นก(คิตตี้) ที่ผู้หญิงเป็นลูกไล่ตามห่วง  ซึ่งเป็นคู่ที่เราชอบที่สุดในหนัง จากการตั้งใจตั้งชื่อตัวละครคนไทยทั้งเรื่องตั้งแต่พระเกนางเอกยันตัวประกอบเป็นชื่อสัตว์ทั้งหมด รวมถึงการกระทำ ความฝัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และบทสนทนาที่สื่อว่าหนังมันมีท่าทีที่บอกคนดูตลอดเลยว่าคนก็เหมือนกับสัตว์ความเงี่ยนเป็นธรรมดา คำพูดของหมูแฮมที่ว่า ‘มึงมีจู๋กูมีจิ๋ม เราก็แค่เงี่ยนมึงอย่าคิดมากเลย’ น่าสนใจที่ว่าคำปลอบนี้ทำให้เสือโคร่งรับไว้พิจารณา รวมถึงหนูนากับไก่โต้งก็ตั้งใจไปมีเซ็กส์กับคนอื่นเพื่อความฟิน  แต่ทุกคนกลับรู้สึกข้ามสิ่งที่ตัวเองเคยทำและโกรธโมโหที่คนที่ตัวเองรักไปมีเซ็กส์กับคนอื่น  สะท้อนว่าเซ็กส์กับความรักความสัมพันธ์ตกลงแล้วมันเป็นคนละเรื่องเดียวกันยังไง? ขณะที่หมูแฮมกลับปล่อยวาง  รวมถึงสิงห์โตกับสิงห์น้อยที่มีทัศนะที่คล้ายกันในการที่เป็นห่วงคนที่ตัวเองรักทั้งที่เขาไม่ได้รู้สึกเกินคำว่าเพื่อนหญิงหรือเพื่อนชาย  และน่าสนใจมากๆ ที่รู้สึกว่าร่างอวตารของผู้กำกับในเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในร่างผู้หญิงหรือสาวประเภทสองแต่มาอยู่ในร่างทอม  ผิดกับจุดเล็กน้อยที่สร้างความรำคาญมากๆ อย่างตัวละครกระเทยที่แบนไปหน่อย ถึงเราจะสนใจในประเด็นเสมอธรรมชายหญิงที่เป็นปลีกย่อยซึ่งคนทำไม่ได้ลงลึกจุดนี้และเลือกที่จะเล่าขยายเป็นภาพกว้างๆ  ให้เห็นว่าถึงแม้ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนจะลงรอยกันด้วยมิตรภาพสวยงาม  แต่มันซ่อนสิ่งสามัญเรื่องเซ็กส์ที่คนมองว่าเป็นสิ่งหยาบโลนก่อนที่จะทำลายล้างคติโลกสวยนี้ได้ฉกาจมากๆ ในฉากจบที่เฉลยว่าเหล่าตัวละครที่วุ่นวายเรื่องรักเรื่องเซ็กส์ตั้งแต่ต้นนั้นแท้จริงพวกเขาก็คือนักเรียน-นักศึกษาวัยเยาว์ทั่วไปที่เที่ยวเล่นเดินสยามเตาะแตะเหมือนเรื่องที่ขึ้นก็แค่เรื่องเซ็กส์ปกติธรรมดาสัตว์โลกพึงอยากกัน สายป่านเอาอยู่ทั้งพาสนุกและพาเหงาเศร้าได้ทั้งสองส่วนโดยที่เรายังเชื่อว่าสายป่านยังเป็น ‘หนูนา’ วัยรุ่นบ้าดาราที่ผสมผสานไปกับวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องความรักอยู่จริงๆ นอกจากสายป่านแล้วนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องก็มีจังหวะให้โดดเด่นไล่เลี่ยกันทั้ง มาโกโตะ มาตามมาดตัวเองเล่นเป็นตัวเองได้น่าเชื่อทั้งมาดศิลปินดังกับมาดเวลาอยู่กับหญิงสาวก็กลายเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ดูเข้าถึงได้  เต๋า-เศรษฐพงษ์ ที่ยังรักษามาตรฐานไว้ได้ดีกับบทบาทที่รู้สึกว่าเหมาะเจาะ  ติ๊นา ที่ดีขึ้นมากๆ จากเรื่องที่ผ่านๆ มา ซึ่งปีนี้ได้เห็นติ๊นาในหนังอีกเรื่องคือ ‘ตีสามคืนสาม ตอน คอนแวนต์’ ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วกับบทบาทในเรื่องนี้ติ๊นาสามารถนำพาได้ดีกว่าร้อยเท่า  ภีม กับ กัสเบล ที่แน่นอนว่าต้องตรึงขาจิ้นได้อยู่หมัด  ที่โดดเด่นมากๆ คือ กาย-นวพล ในบท ไก่โต้ง ชายหนุ่มมาดเซอร์สะอาดที่หลงรักหมูแฮมเพื่อนทอม ที่หนังมีช่วงให้เราสนใจใคร่รู้ในสถานะและบทบาทมาเรื่อยๆ ค่อยๆ เผยที่ละเล็กละน้อยจนปล่อยให้ประกายออกมาได้น่าจดจำ และ คิตตี้ ในบท นก เด็กสาวผู้มาดามใจไก่โต้งก็เป็นส่วนที่ช่วยขับให้ทั้งสองคนดีงามไปพร้อมๆ แล้วยังเป็นคู่เจ้าของประโยค ‘ไม่ได้คัน แค่เป็นห่วง’ ที่ใครดูก็น่าจะจำได้ขึ้นใจ ฟินสุโค่ย ไม่ใช่หนังขายเซ็กส์ซีนอย่างที่หลายๆ คนอาจเข้าใจเองกันไปก่อน  แต่เป็นหนังโรแมนติกคอมิดี้ ที่มีดีด้วยดราม่าที่จัดได้ว่าพอดีน้ำพอดีเนื้อ เป็นหนึ่งในหนังไทยที่น่าดูในปีนี้ทั้งในเรื่องของบท การกำกับ และนักแสดงที่น่าสนใจ  ถึงแม้จะมีความคลิเช่ ความแบน ความซ้ำซากอยู่หลายครั้ง  แต่ในฐานะหนังสนุกมันเอาอยู่นะ  ในฐานะหนังดีก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหล่  และใครที่เป็นแฟนนักแสดงคนใดคนหนึ่งในเรื่องนี้ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามพลาด! โดยเฉพาะแฟนมาโกโตะลองไปดูกันว่าพวกคุณแฟนๆ ทั้งหลายจะหลง Trick แบบหนูนาหรือเปล่า!!!