ตัวพ่อเรียกพ่อ – Tua-Por-Reak-Por

The One Ticket ตัวพ่อ…เรียกพ่อ (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา / Thailand / 2014) น้องยูเคที่เล่นเป็นลูกสาวแดนน่ารักมากๆ สำหรับนักแสดงเด็กไทยแล้วน้องก็เล่นดราม่าเป็นธรรมชาติดีเลยล่ะ แล้วพล็อตมันก็น่ารักดีด้วยนะ..เอาแค่ที่ว่าไม่สปอยล์..พ่อลูสเซอร์วัยหนุ่มคนหนึ่งเลี้ยงลูกสาววัยอนุบาลตามลำพัง ลูกสาวฝากเงินซื้อตั๋วเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นแต่พ่อดันพลาดใช้เงินไปทำอย่างอื่น จนต้องหาวิธีเอาตั๋วมาให้ได้ จนกระทั่งต้องรวมทีมเพื่อนๆ และคนรู้จักแต่งหญิงไปประกวดเต้น cover!!…แต่นอกจากความน่ารักแล้ว ความงี่เง่าดักดานของตัวละครระดับบรรลัย และความต่ำตมของมุกตลกในหนังหลายๆ อย่างมันโดดเด่นและน่าพูดถึงกว่าเยอะ ไม่ใช่ว่าไม่มีมุกเฮฮาน่ารักๆ ให้ชื่นใจอยู่เลยนะ แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่รวมมุกสัปดนไร้เหตุไร้ผลของความเป็นคนและสาระของการมีอยู่ไว้เยอะมากๆ เยอะเสียจนตีกลับกลายเป็นความเพลิดเพลินในการสำรวจความตื้นเขินของการเล่าผ่านเรื่องราวในหนัง คือเราไม่ได้มีปัญหากับการเล่นมุกจำพวกนี้ในหนัง แต่พอคนทำเทกระจาดเรี่ยราดเหมือนเด็กเห่อฮามอยที่เพิ่งหัดสบถคำหยาบโลน ด่าพ่อล่อแม่เหยียดเย้ยไปทั่วยังไงยังงั้น..มันก็เลยมั่วซั่วไปหมด คนทำก็กล้าเล่นกล้าตัดมุกส่วนเกินยาวๆ มาวางทั้งก้อนเหมือนหวังว่าคนดูจะต้องขำสักดอกแต่บางทีกลับขำไม่ออกเลยสักแอะ หลายมุกมันกักขฬะแถมยังยัดเยียดจนฝืดเฝือ..คือถ้าจะให้ขำก็ต้องพึ่งคนดูที่เส้นตื้นระดับขุมนรกและเลวทรามประมาณนึง ถึงจะเปลี่ยนจากคว่ำมุมปากให้แง้มหงายกลายเป็นยิ้มได้  แต่อีกมุมหนึ่งนอกจากความตลกพาไปไร้สาระมันก็เป็นหนังครอบครัวที่ทำให้คนดูซาบซึ้งน้ำตาหยดแหมะได้อยู่นะ ทั้งที่วิธีการเล่าการเก็บงำและหักมุมของส่วนดราม่าก็เล่าด้วยการให้ตัวละครเสแสร้งตั้งแต่เริ่มต้น สร้างรีแอคชั่นปลอมๆ ที่หลอกลวงคนดูให้เดินตามจนตกหลุมพรางอย่างไร้สติ..เราก็โดนน้ำตาซึมเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ อย่างที่บอกว่าส่วนหนึ่งมันก็ให้ความรู้สึกว่ามันเป็นหนังครอบครัว การที่หนังได้เรท 15+ และมีตัวละครเด่นเป็นเด็กหญิงน่ารักก็เลยน่าสนใจในแง่ของการสมาสประเภทหนังการ์ตูนตลกถ่อยกับหนังครอบครัวน่ารักๆ แน่นอนว่า 15+ มาจากมุกหยาบ โอเคว่าเด็กหนุ่มและเด็กสาววัย 15 ปีขึ้นไปนั้นเริ่มมีขนกันแล้วและส่วนใหญ่ของวัยรุ่นในสยามประเทศก็คงเคยเห็นหรือเคยศึกษากายภาพอุกอุยของฝั่งตรงข้ามมาแล้วในวิชาเรียนก็น่าจะพอเข้าใจภาพไข่ขนที่เห็นได้ แต่เราคิดว่าคงมีพ่อแม่พาลูกพาเด็กตัวเล็กๆ ไปดูเพราะคงเห็นแค่โปสเตอร์ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังก็เลยคิดว่าเป็นหนังครอบครัวเฮฮาน่ารัก และคงเป็นโมเมนต์ที่พิเศษถ้าลูกไม่เก็ตมุกแล้วถามพ่อแม่ว่า ‘นั่นอะไรน่ะ ทำไมคนอื่นเขาถึงขำเงาะในกางเกงกัน’ เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย น่าจะฉายวันพ่อจะได้ซึ้งมากกว่านี้ (T^T) ใครคนหนึ่งที่ซาบซึ้งกับหนังเรื่องนี้โดยประมาณการมิได้