แมนฯซิตี้ เล่นผิดฟอร์มไปเยอะโดนเชลซี ตั้งรับเหนียวแน่นจนเจาะไม่เข้า ก่อนที่ เมสัน เม้าท์ จะจ่ายบอลสุดงามให้ ไค ฮาแวทซ์ หลุดไปเกี่ยวหนี เอแดร์ซอน ก่อนยิงประตูพาทีมชนะ 1-0 คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 2 ของสโมสรไปครองอย่างยิ่งใหญ่ โดยไฮท์ไลท์เกมนี้ เดอ บรอยน์ โดนอันโตนิโอ รุดิเกอร์ อัดจนเจ็บร้องไห้ออกจากสนามไปด้วย
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ
แมนฯซิตี้ 0 – เชลซี 1
สนาม : เอสตาดิโอ ดู ดราเกา, ปอร์โต้
ในนาทีที่ 9 เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูเมื่อ ไค ฮาแวทซ์ ตบบอลจากซ้ายมาให้ ทิโม แวร์เนอร์ แต่เจ้าตัวยิงวืดแบบไม่น่าเชื่อ
ในนาทีที่ 13 เชลซี น่าจะได้ประตูออกนำ เมสัน เมาท์ แย่งบอลเข้าทาง เบน ชิลเวลล์ ที่แทงบอลต่อ เมาท์ ตบบอลเข้าในให้ ทิโม แวร์เนอร์ ยิงเน้นๆ แต่ตรงตัว เอแดร์ซอน
ในนาทีที่ 27 เป็นจังหวะเข้าทำของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งทาง เดอ บรอยน์ ไหลบอลมาให้ ฟิล โฟเด้น หลุดไปยิงแต่โดน อันโตนิโอ รือดิเกอร์ บล็อกได้ทัน
ในนาทีที่ 42 เชลซี ขึ้นนำ 1-0 เมสัน เมาท์ แทงบอลให้ ไค ฮาแวทซ์ หลุดไปแตะหนี เอแดร์ซอน แม้บอลโดนแขนประตูฝ่ายตรงข้ามแต่กลายเป็นดีตั้งให้ ไค ฮาแวทซ์ ตามไปยิงเข้าประตูไป
ในนาทีที่ 60 เรือใบสีฟ้า ร้องเอาจุดโทษ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงบอลไปโดนแขน รีซ เจมส์ แต่ทาง มาเตว ลาโอซ ระบุว่าบอลโดนหน้าอกก่อนไปกระทบแขนเลยไม่ให้
ในนาทีที่ 69 ซิตี้ เดินเกมหวังเอาประตูคืนให้ได้ รียาด มาห์เรซ ตบบอลจากขวาเข้าใน อิลคาย กุนโดกัน รอชาร์จโล่งๆแต่โดน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า สกัดตัดหน้าออกไปได้ก่อน
ในนาทีที่ 73 เชลซี สวนกลับเร็ว ไค ฮาแวทซ์ ลากบอลจี้ขึ้นมาก่อนไหลบอลให้ คริสเตียน พูลิซิช หลุดไปยิงบอลผ่าน เอแดร์ซอน แต่หลุดเสาไกลออกไป
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้น เรือใบสีฟ้า พยายามอย่างหนักแต่ทำไม่ได้ จบเกมเป็นทาง เชลซี เบียดชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 พร้อมกับคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 2 มาครองได้สำเร็จ
“ข่าวสารวงการฟุตบอลอัพเดทใหม่ล่าสุด ผลบอลสดทุกวัน บทความอัพเดทจาก Ufabet เว็บพนันออนไลน์ “