แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัย 8 นัดรวดจากทุกรายการหลังเปิดบ้านอัด คริสตัล พาเลซ 4-0 ขยับขึ้นไปอยู่รองฝูงของตาราง ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เพียง 2 คะแนน แข่งน้อยกว่า 1 นัด
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ 4 – 0 คริสตัล พาเลซ
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้ นัดนี้ไม่มี เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ต้องกักตัวหลังใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 เลือกใช้ กาเบรียล เชซุส เป็นหน้าเป้าส่วน คริสตัล พาเลซ ที่เพิ่งบุกเสมอ อาร์เซน่อล 0-0 ถอด คริสติย็อง เบนเตเก้ ออกจากทีมตัวจริง
ผ่านมา 20 นาทีแรก แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้ แต่หาช่องเจาะลำบากเพราะ พาเลซ ขึงเกมรับกันแน่น จังหวะลุ้นจริงจังครั้งแรกของ แมนฯ ซิตี้ คือนาที 22 กุนโดกัน ไหลบอลให้ เดอ บรอยน์ แต่งเข้าซ้ายแล้วปั่นหน้าเขตโทษ บอลแฉลบผู้เล่น พาเลซ เล็กน่อยก่อนปลิวหลุดกรอบ
จากจังหวะเตะมุม สเตอร์ลิ่ง ได้ยิงแต่ติดบล็อก กุนโดกัน ตามซ้ำก็ติดบล็อกอีก จังหวะสุดท้าย เดอ บรอยน์ เก็บได้ก่อนซัดแต่ยังมีแนวรับพาเลซพุ่งขวางตามเคย
ในนาทีที่ 26 เดอ บรอยน์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ จอห์น สโตนส์ เทกตัวขึ้นโขกบอลเสียบตาข่ายอย่างสุดสวย ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำเป็น 1-0 จนได้
เรือใบเล่นได้ง่ายขึ้น ครองบอลและเคาะหาช่องไปเรื่อย แต่ไม่สามารถบวกเพิ่มได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 56 แมนฯ ซิตี้ ขยับขึ้นนำเป็น 2-0 จากการยิงหน้าเขตโทษเข้าไปสุดสวยของ อิลคาย กุนโดกัน จากนั้นอีก 4 นาที เป๊ป เปลี่ยนตัวส่ง ฟิล โฟเด้น ลงแทน แบร์นาร์โด้ ซิลวา
ในนาที 62 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีกครั้ง กาเบรียล เชซุส จ่ายบอลคืนให้ เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมปั่นจากหน้าเขตโทษ บอลเลี้ยวหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว
เรือใบนำห่างเป็น 3-0 ในนาที 68 จากจังหวะเตะมุมที่ เดอ บรอยน์ เปิดให้ รูเบน ดิอาส โขกแต่ติดเซฟของ บิเซนเต้ ไกวต้า แต่บอลเด้งเข้าทาง จอห์น สโตนส์ ซ้ำจากระยะจุดโทษเข้าไป เป็นประตูที่ 2 ของ สโตนส์ ในนัดนี้
เวลาที่เหลือ พาเลซ ไม่สามารถตีไข่แตกได้ แถมยังมาโดนเพิ่มในนาที 88 จากการยิงฟรีคิกสุดสวยของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำให้จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะไป 4-0 คว้าชัยชนะ 8 นัดติดจากทุกรายการ พร้อมขยับขึ้นรองฝูงของตาราง