เจ้าถิ่นไม่ชนะใครมา 4 นัดติดจัดโชลินตอน จับคู่กับ คัลลั่ม วิลสัน ในแดนหน้า ส่วน เลสเตอร์ เรียก วาร์ดี้ หัวหอกตัวเก่งกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งและได้ เจมส์ แมดดิสัน ฟิตลงปั้นเกม
เลสเตอร์ ได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 3 เจมส์ แมดดิสัน สับไกลจากหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลเหินข้ามคาน
เลสเตอร์เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 10 จากแมดดิสันที่เลี้ยงบอลหลบ คาร์ล ดาร์โลว์ และซัดด้วยขวาตุงตาข่าย แต่กรรมการยกธงล้ำหน้าไปซะก่อน
มาถึงนาที 21 เป็นโอกาสของนิวคาสเซิ่ลบ้าง แมทธิว ลองสตาฟฟ์ ตัดบอลจากกลางสนามก่อนไหลต่อให้ ฌอน ลองสตาฟฟ์ ซัดเต็มข้อหน้าเขตโทษแต่บอลชนสามเหลี่ยมอย่างน่าเสียดาย
ช่วงท้ายครึ่งแรกไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนัก ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังในนาทีที่ 55 เลสเตอร์ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ วาร์ดี้ ได้บอลในเขตโทษก่อนไหลนิ่มๆ ให้ เจมส์ แมดดิสัน ซัดเต็มข้อระยะ 16 หลา บอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดแรง คาร์ล ดาร์โลว์ หมดปัญหาที่จะป้องกันไว้ได้
จากนั้น เลสเตอร์ ขยับหนีเป็น 2-0 ในนาที 72 ยูริ ตีเลมันส์ ตวัดบอลออกขวาให้ เจมส์ แมดดิสัน บรรจงเปิดกลับมาหน้าเขตโทษ ตีเลมันส์ วิ่งมายิงเน้นๆ ด้วยขวาส่งบอลโค้งเสียบเสาอย่างสวยงาม
เจมี่ วาร์ดี้ เกือบมีสกอร์สุดๆ ในนาที 77 เมื่อได้วอลเล่ย์ตรงหน้าเขตโทษหลังจากเพื่อนร่วมทีมตักโด่งมาให้ แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง
นิวคาสเซิ่ลยังไม่ยอมแพ้นาที 82 ตีไข่แตกจากฟรีคิกที่ เวสเล่ย์ โฟฟาน่า โหม่งเคลียร์เข้าทาง แอนดี้ แคร์โรลล์ หวดตูมเดียวระยะ 13 หลา ส่งบอลทะลุเข้าประตูไป สกอร์กลับมาเป็น 2-1
จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้ 2-1 มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ไล่จี้ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ 1 คะแนนเช่นเดิม